องค์กรสื่อออกแถลงการณ์ รับไม่ได้พฤติกรรม นักข่าว รับเงิน 'บิ๊กโจ๊ก'
ประเด็น รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ยอมรับว่า มีการดูแลสื่อมวลชน ด้วยการจ่ายเงินเป็นค่าอาหาร ค่าเดินทาง ฟาก 7 องค์กรวิชาชีพสื่อ ออกมาเคลื่อนไหว ประกาศ จุดยืนรับไม่ได้ กรณีสื่อมวลชนรับเงินจาก "บิ๊กโจ๊ก" ถือเป็นเรื่องที่ผิดจริยธรรมวิชาชีพอย่างร้ายแรง
องค์กรสื่อ ซึ่งประกอบไปด้วย สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ สหภาพแรงงานกลางสื่อมวลชนไทย และ สมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทย รวม 7 องค์กร ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า สื่อมวลชนที่รับเงินจากแหล่งข่าวเป็นเรื่องที่ผิดจริยธรรมวิชาชีพอย่างร้ายแรง ไม่สามารถยอมรับได้
สืบเนื่องจากกรณีที่รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่ามีการจ่ายเงินให้สื่อมวลชนเพื่อเป็นค่าข่าว และช่วยเหลือ เนื่องจากเห็นว่านักข่าวเงินเดือนน้อย ตามที่ได้มีการเผยแพร่ข่าวต่อสาธารณะออกไปอย่างแพร่หลายนั้น 7 องค์กรสื่อ ซึ่งประกอบไปด้วย สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ สหภาพแรงงานกลางสื่อมวลชนไทย และสมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทย ได้ร่วมประชุมกันและขอแสดงจุดยืนต่อสาธารณะว่า สื่อมวลชนที่รับเงินจากแหล่งข่าวเป็นเรื่องที่ผิดจริยธรรมวิชาชีพอย่างร้ายแรง ไม่สามารถยอมรับได้
ที่ประชุม 7 องค์กรวิชาชีพ มีมติดังนี้
.
1. เห็นชอบให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อสร้างความกระจ่างชัดในทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องต่อสาธารณะ โดยคณะกรรมการประกอบด้วย ผู้แทนจากสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมสภาวิชาชีพกิจการการแพร่ภาพและการกระจายเสียง (ประเทศไทย)ซึ่งทำหน้าที่ดูแลเรื่องจริยธรรมวิชาชีพสื่อมวลชนขององค์กรสมาชิก องค์กรละ 2 คน (เป็นคนในวิชาชีพ 1 คน และบุคคลภายนอก 1 คน) รวมเป็น 6 คน และให้กรรมการทั้ง 6 คน สรรหาบุคคลภายนอกมาเป็นประธานคณะกรรมการอีก 1 คน รวมเป็น 7 คน
.
2.ขอให้องค์กรต้นสังกัดที่ถูกระบุว่ามีนักข่าวรับเงินตรวจสอบว่านักข่าวคนดังกล่าวรับจริงหรือไม่ และการดำเนินการขององค์กรต้นสังกัดแจ้งต่อสาธารณะให้ทราบ ส่วนบุคคลที่ไม่มีต้นสังกัด ทำตัวเป็นนักข่าวเพื่อส่งข่าวต่อไปยังสำนักข่าวอื่นๆ แต่ทำผิดจริยธรรมวิชาชีพนั้น 7 องค์กรสื่อขอเรียกร้องให้ทุกสำนักข่าว ไม่ซื้อข่าวจากบุคคลดังกล่าวอีกต่อไป
.
3.กรณีที่มีนักข่าวมีส่วนพัวพันหรือไปเกี่ยวข้องกับการรับเงินในธุรกิจที่ผิดกฎหมาย คณะกรรมการที่จะตั้งขึ้นซึ่งประกอบด้วย ผู้แทนจากสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมสภาวิชาชีพกิจการการแพร่ภาพและการกระจายเสียง (ประเทศไทย) จะตรวจสอบเรื่องของจริยธรรมวิชาชีพเช่นกัน ส่วนความผิดตามกฎหมายนั้น เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย
4. 7 องค์กรสื่อขอเรียกร้องให้บุคคลที่เป็นอดีตนักข่าว ทำหน้าที่ส่งข่าวต่อให้สำนักข่าวอื่นๆ แสดงตัวตนให้ชัดเจนว่าการรับเงินดังกล่าวเป็นค่าจ้าง หรือค่าตอบแทนในการทำข่าว เพราะถือเป็นอาชีพที่สามารถดำเนินการได้ ไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลจริยธรรมวิชาชีพสื่อมวลชน
.
สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ
สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์
สหภาพแรงงานกลางสื่อมวลชนไทย
สมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทย
27 กันยายน 2566
.
นายจีรพงษ์ ประเสริฐพลกรัง เลขาธิการ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ประเด็นที่ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( รองผบ.ตร.) ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ได้มีการให้เงินกับผู้สื่อข่าว โดยระบุว่าให้เงินเป็นค่าอาหาร ค่าเดินทาง ครั้งละ 10,000 บาท เพราะสื่อมวลชนเงินเดือนน้อย ทั้งยังยืนยันว่าเงินที่ให้ ไม่ใช่เงินที่มาจากเว็บพนัน ขอทฝากคำแนะนำไปถึงนักข่าวที่ถูกพาดพิง หากรู้สึกว่าได้รับความเสียหายจากเรื่องนี้ สามารถแจ้งต้นสังกัดและใช้สิทธิในการดำเนินคดีกับผู้ที่กล่าวพาดพิงได้
ขณะเดียวกันขอเรียกร้องไปถึงองค์กรสื่อต้นสังกัดต่างๆ ไม่ใช่แค่เฉพาะนักข่าวในรายที่ถูกเอ่ยชื่อ ว่าควรสอดส่องว่านักข่าวในสังกัดของตนเองมีพฤติกรรมในการรับเงินจากแหล่งข่าวด้วยหรือไม่ หากพบว่ามี ควรมีมาตรการที่จะดำเนินการตามขั้นตอนของแต่ละองค์กร เพราะถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และไม่ควรปล่อยให้คนที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ อยู่ในองค์กรวิชาชีพของตนเองต่อไป
"ที่ผ่านมาสมาคมฯ เคยได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมของนักข่าวที่เรียกรับเงินจากแหล่งข่าว แต่ไม่บ่อย เพราะนักข่าวในยุคปัจจุบันรู้ดีว่าหากทำอะไรนอกลู่นอกทาง จะถูกตรวจสอบได้ง่าย โดยเฉพาะในยุคโซเชียลมีเดีย มักจะมีการถ่ายคลิปอะไรต่าง ๆ เป็นหลักฐาน ทั้งนี้หากใครที่มีข้อมูล หรือพบเห็นนักข่าวที่มีพฤติกรรมเรียกรับผลประโยชน์ หรือทำตัวไม่เหมาะสมกับวิชาชีพ สามารถส่งเรื่องร้องเรียนเข้ามาได้ ผ่านทั้งองค์กรวิชาชีพ เพื่อจะแจ้งให้ต้นสังกัดรับทราบพฤติกรรม และองค์กรวิชาชีพจะคัดกรองนักข่าวที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ออกไป" เขา กล่าว
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ท่ามกลางสื่อมวลชน
.