แก้ปม 'รถบรรทุกน้ำหนักเกิน' ส่วยทางหลวง เตรียมเพิ่มโทษปรับไม่เกิน 2 แสนบาท
คมนาคม แก้ปัญหา 'รถบรรทุกน้ำหนักเกิน' ตัดตอนส่วยทางหลวง เตรียมเพิ่มโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท จากเดิม 10,000 เพิ่มความถี่ตรวจรถฝ่าฝืน
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแล กำกับ รถบรรทุกได้มีการประชุมหารือเรื่องแนวทางการแก้ไขปัญหา "รถบรรทุกน้ำหนักเกิน" เพราะที่ผ่านมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญและมีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหารถบรรทุกน้ำหนักเกิน หรือส่วยสติกเกอร์ที่ได้เกิดขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้นั้น ซึ่งจากข้อเท็จจริงจากการตรวจสอบพบว่ามี "รถบรรทุกน้ำหนักเกิน" จริง และมีข้อบกพร่องในโครงสร้างและกระบวนการในการบังคับใช้กฎหมาย ผมจึงมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมกันเพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาให้ครอบคลุมในทุกมิติ สามารถป้องกันปัญหาการทุจริตที่เกิดขึ้น ผลักดันการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการดำเนินงาน ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางในการแก้ไขปัญหา "รถบรรทุกน้ำหนักเกิน" จะต้องนำมาปฏิบัติให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม สร้างความมั่นใจ และอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการเดินทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในทุกมิติ พร้อมกำชับการทำงานทุกขั้นตอน ต้องมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ปฏิบัติงานด้วยความสุจริต และปราศจากการทุจริต ได้เน้นย้ำว่าในช่วงที่ตนดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมจะต้องไม่มีการทุจริต หรือมีส่วยสติกเกอร์ทางหลวงเกิดขึ้นโดยเด็ดขาด สำหรับการประชุมในวันนี้ ได้รวบรวมทั้งรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชนเกี่ยวกับสภาพปัญหาและแนวทางการแก้ไขปัญหารถบรรทุกน้ำหนักเกิน และพิจารณาแนวทาง การแก้ไขปัญหาให้ครอบคลุมในทุกมิติอย่างรอบด้าน
1. ปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย โดยแก้ไขกฎหมายให้มีโทษปรับในอัตราที่สูงขึ้นจากเดิม 10,000 บาท เป็น 200,000 บาท โดยจะเป็นการปรับแก้ พ.ร.บ. ทางหลวงฯ เพื่อให้รถบรรทุกที่ฝ่าฝืนกฎหมายเกิดความเกรงกลัว และไม่ฝ่าฝืนกฎหมาย
2. เพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบ "รถบรรทุกน้ำหนักเกิน" โดยการเพิ่มความถี่ อัตรากำลัง ยานพาหนะ ในการติดตามตรวจสอบรถบรรทุกน้ำหนักเกินของตำรวจและกรมทางหลวง
3. นำเทคโนโลยีมาใช้ในการดำเนินงาน อาทิ การนำเทคโนโลยี AI พร้อมกล้อง CCTV มาช่วยประเมินรถบรรทุกที่มีแนวโน้มบรรทุกน้ำหนักเกิน การบูรณาการเชื่อมโยงฐานข้อมูลระบบ GPS ของกรมการขนส่งทางบก ร่วมกับกองบังคับการตำรวจทางหลวง กรมทางหลวงชนบท เพื่อช่วยในการติดตามจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกิน และการบูรณาการเชื่อมโยงฐานข้อมูล Call Center เรื่องร้องเรียนรถบรรทุกน้ำหนักเกิน
กระทรวงคมนาคมและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันบูรณาการแก้ไขปัญหา "รถบรรทุกน้ำหนักเกิน" ให้สำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ทุกประการ อันจะนำมาซึ่งประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของพี่น้องประชาชนให้ได้รับความสะดวก ปลอดภัย และพึงพอใจสูงสุด ตามนโยบายของรัฐบาล และนายกรัฐมนตรีที่ได้มุ่งมั่นปฏิบัติงานเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ