กระทรวงกลาโหม รุกปรับโครงสร้างกองทัพ เป้า 3 ปี 1,713 อัตรา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เผยการปรับโครงสร้างกองทัพและลดกำลังพล ระยะเร่งด่วน 3 ปีแรก งบประมาณ 2568-2570 เป้า 3 ปี ยอดสุทธิ 1,713 อัตรา รุกต่อนำระบบเออรี่รีไทร์ สำหรับทหารที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ขึ้นมาใช้ ของบรัฐรวม 600 ล้านบาท จูงใจให้เกษียณ
นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากคณะกรรมการเรื่องการปรับโครงสร้างกองทัพและลดกำลังพล ซึ่งได้ข้อสรุปว่า ต่อไปนี้กระทรวงกลาโหม จะเดินหน้าปรับโครงสร้างให้ทันสมัย ลดกำลังพล 2 ระยะ โดยระยะเร่งด่วน 3 ปีแรก งบประมาณ 2568-2570 จะมีการปรับปรุงโครงสร้างกระทรวงกลาโหม ปิดหน่วย ควบรวมหน่วย ปิดอัตรา ซึ่งใน 3 ปี คาดว่าจะปิดได้ 1,713 อัตรา และสามารถนำไปใช้จ่ายในการพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพในด้านอื่นๆ เพื่อให้กองทัพมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพ มีขนาดเล็กลงแต่คล่องแคล่ว
นอกจากนี้ จะนำระบบเออรี่รีไทร์ สำหรับทหารที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป โดยจะมีการปรับยศให้สูงขึ้นและได้เงินเพิ่ม โดยงบประมาณที่จะนำไปรองรับส่วนนี้ จะของบกลางจากรัฐบาลปีละ 200 ล้าน 3 ปีรวม 600 ล้าน ซึ่งประหยัดกว่าที่จะรอให้อัตรากำลังเหล่านี้ เกษียณตามอายุ ที่จะต้องใช้งบประมาณถึง 4,000 ล้านบาท
เขา กล่าวว่า จากนี้ไปนี้กำลังพลทุกระดับ จะต้องเพิ่มเติมเรื่องการศึกษา และพัฒนาตัวเอง เพื่อเป็นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้กับประเทศชาติ จุดสำคัญที่สุดก็คือ ทหารกองประจำการ หรือทหารเกณฑ์ ที่เข้ามาเป็นทหาร 2 ปี กระทรวงกลาโหม จะเปลี่ยนกระบวนทัศน์ หรือแนวคิดของคนในสังคมเสียใหม่ โดยฝ่ายประชาชน เดิมทีคิดว่าเป็น 2 ปี ของความสูญเสียโอกาส และหยุดชะงักของการพัฒนาของเยาวชน
แต่เปลี่ยนเป็น 2 ปี ของการเพิ่มศักยภาพ และโอกาสการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เช่น ทำให้เลิกยาเสพติด เติมการศึกษาถึงระดับสูงสุด ผ่านระบบการเรียนออนไลน์ การฝึกวิชาชีพ จนได้ใบประกาศและใบรองรับคุณวุฒิ โดยมีสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ที่จะเข้าไปวัดมาตรฐานฝีมือ ซึ่งสัปดาห์หน้าจะมีการลงนามความร่วมมือ กับสถานศึกษาสถาบันเอกชน รวมถึงภาคธุรกิจ ที่จะต่อยอดเรื่องนี้