ตั้ง กรรมการสอบ ‘อดีตเจ้าอาวาส’ วัดดัง ‘ปทุมธานี’
เดินหน้าจัดระเบียบ วัดดัง ‘ปทุมธานี’ ตั้งกรรมการสอบ ‘อดีตเจ้าอาวาส’ ขณะที่ ‘เจ้าอาวาส’ ปัจจุบัน โดนขู่เอาชีวิต
กรณี พระครูปริยัตยาคม เจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง เจ้าอาวาสวัดทวีการะอนันต์ หรือวัดสีชมพู จ.ปทุมธานี เข้าพบ ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ขอให้เป็นผู้จัดการผลประโยชน์ของวัดในที่ธรณีสงฆ์ และช่วยดูแลจัดประโยชน์จัดระเบียบในวัดสีชมพู ทั้งหมด หลังพบความไม่ชอบมาพากลในผลประโยชน์ของวัดที่ผ่านมา
ขณะที่ อดีตเจ้าอาวาสวัด ชี้แจงว่า ไม่เคยโกงเงินวัด ไม่เคยยักยอก และจะไม่ยอมสึกจากการเป็นพระ รวมทั้งเกิดวิวาทะกับ ทนายอนันต์ชัย ต่อมา ทนายอนันต์ชัย แจ้งต่อเจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง ว่า อดีตเจ้าอาวาส ดูถูกซึ่งหน้า
“เคยโทรศัพท์ยืมเงินญาติโยม ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพราะต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟสิ่งก่อสร้างและนำมาช่วยเหลือญาติโยม เงินที่โอนเข้ามาในบัญชีเพื่อความสะดวกสบายในการช่วยเหลือญาติโยม ส่วนคลิปที่ออกไป ไม่ได้เป็นคนถ่ายมีคนภายในวัดถ่าย แล้วนำไปแชร์ เพื่อล้มอาตมา หลังจากนี้จะเคลียร์ปัญหาให้เสร็จสิ้น แล้วจะดำเนินการทำปริวาสกรรม เพื่อลบล้างความผิดที่ได้ทำไป และขอให้ญาติโยมที่ยังรักอาตมา มาช่วย” อดีตเจ้าอาวาส กล่าว
ล่าสุด วันที่ 5 เม.ย.2567 คณะสงฆ์จังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วย เจ้าอาวาสวัดสีชมพู รูปปัจจุบัน และ มูลนิธิทนายความกองทัพธรรม ประชุม แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงอดีตเจ้าอาวาสวัด ก่อนเตรียมดำเนินการตามวินัยสงฆ์ และกฎหมาย
โดยพบว่า ชาวบ้านคลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ที่อาศัยใกล้เคียงวัด รวมตัวหน้าศาลาจตุรวรรณ พื้นที่จัดประชุม และพยายามจะเข้าไปฟังการประชุม แต่ ทนายอนันต์ชัย ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความปลอดภัย ห้ามมิให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วมการฟัง จนเกือบเกิดความวุ่นวายขึ้น แต่ควบคุมเหตุการณ์เอาไว้ได้
ทนายอนันต์ชัย เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการประชุมหลังครบกำหนด 3 วัน ที่ยื่นขับไล่ อดีตเจ้าอาวาส ซึ่งยังไม่ลาสิกขาและออกจากวัด จึง ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบดำเนินการเอาผิดตามวินัยสงฆ์ ยึดระเบียบมหาเถรสมาคม และทีมทนายความมูลนิธิทนายกองทัพธรรม จะแจ้งข้อกล่าวหาผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ยังอยู่ในวัดและสร้างความวุ่นวายในฐานบุกรุก
สำหรับการประชุมครั้งก่อนที่มีการกล่าวหา อดีตเจ้าอาวาสวัด เป็นโลกะวัชชะชาวโลกติเตียน ไม่เหมาะสม แต่ยังคงสมณเพศ จึงเตรียมดำเนินการตามขั้นตอนถึงที่สุด
ขณะที่ ความคืบหน้าการตรวจสอบ เส้นทางการเงิน พบว่ามีหลาย 10 บัญชี ถูกแปลเป็นที่ดินและรถยนต์ มูลค่ารวมกว่า 700 ล้านบาท หากพบว่าไปถึงใครจะดำเนินคดีทั้งหมด
ขณะที่ พระครูปริยัติยาคม เจ้าอาวาสวัดสีชมพู รูปปัจจุบัน ยอมรับว่า กังวลใจ หากต้องมาจำอยู่ที่วัด เพราะมีผู้ไม่หวังดีข่มขู่เอาชีวิต
ด้าน ทนายณรงค์ศักดิ์ ทนายความฝ่าย อดีตเจ้าอาวาส กล่าวว่า พบว่ามีการแถลงข่าวไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริง สร้างความเสียหาย จึงเตรียมแถลงชี้แจงในวันพรุ่งนี้