ชาวบ้านอึ้ง นางฟ้าไต้หวัน ลงทุนเรียนภาษา บินมาไทยแต่งหน้าศพให้ฟรีกว่า 50 ศพ
นางฟ้าไต้หวั่น ลงทุนเรียนภาษาไทยบินมา แต่งหน้าศพ ให้ฟรีกว่า 50 ศพ ชาวบ้านอึ้งไม่หวั่นแม้ศพเละ เผยจุดเริ่มต้นมาจากพ่อ
วันที่ 18 เม.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีคนผูกคอเสียชีวิตที่บ้านหนองเกาะ หมู่ 8 ต.สตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นศพที่เสียชีวิตมาประมาณ 3 วัน มีลักษณะเริ่มส่งกลิ่นเหม็นและเน่าเปื่อย ได้มีนายยิ่งพันธ์ ว่องไว อายุ 48 ปี ชาวอ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เจ้าของเพจ "บ้านหลังสุดท้ายได้ทุกคน" และเป็นเจ้าของกิจการรับจัดงานศพ เดินทางมาพร้อมกับ นางสาว Chou yi hua หรือ แอมม่า อายุ 33 ปี ชาวไต้หวัน ช่วยแต่งหน้าศพให้ ทำให้ญาติและชาวบ้านที่อยู่บริเวณนั้นต่างตกใจและไม่เชื่อว่าสาวสวยขนาดนี้จะกล้าแต่งศพที่กำลังเน่าเปื่อยได้ สุดท้าย แอมม่า ทำได้อย่างไม่ขัดเขิน สร้างความตะลึงให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก
สอบถาม แอมม่า เล่าว่า ปกติเธอจะมีอาชีพเป็นสัปเหร่ออยู่ที่ไต้หวัน พอมาเห็นเพจ "บ้านหลังสุดท้ายได้ทุกคน" จึงทักไปว่าอยากจะไปช่วยแต่งหน้าศพและสอนการแต่งหน้าศพให้ เพราะจากข้อมูลพบว่า "คนไทยไม่ชอบแต่งหน้าศพ" คนที่เสียชีวิตไปแล้ว
น.ส.แอมม่า กล่าวด้วยว่า เธอแต่งหน้าศพที่ไต้หวัน มา 4 ปี คนที่ตายไปแล้วหน้าตามักจะน่ากลัวเหมือนผี เราจะต้องแต่งให้เขาเหมือนนอนหลับให้ได้ พอมาเห็นเพจที่เมืองไทย จึงทักไปว่าจะมาแต่งศพให้ฟรี เพราะคนไทยไม่ชอบแต่งหน้าศพ
หลังจากนั้นได้เรียนพูดภาษาไทยให้ได้มากที่สุดเพื่อต้องการสื่อสารกันเข้าใจ จึงพูดไทยบ้างนิดหน่อย เมื่อฝั่งประเทศไทยรับปากจึงเดินทางมาทันที ตอนนี้มาเป็นครั้งที่ 2 รวมแต่งหน้าศพแล้วประมาณ 50 ศพ ยืนยันว่าจะมาแต่งหน้าศพที่เมืองไทยอีก
สำหรับเหตุผลที่มาเป็นสัปเหร่อ แอมม่า เล่าว่า หลังจากพ่อของเธอเสียชีวิต สัปเหร่อที่ไต้หวันแต่งหน้าศพให้กับพ่อของเธอไม่สวย เธอจึงตัดสินใจที่จะไปเรียนแต่งหน้าศพจนเป็นจุดเริ่มต้นของอาชีพสัปเหร่อของเธอ
ด้านนายยิ่งพันธ์ ว่องไว พ่อค้าโลงศพ เล่าว่า เห็นหญิงสาวรายนี้ทักมาในเพจ ตอนแรกมั่นใจว่าเป็น "มิจฉาชีพ" เพราะคนสวยขนาดนี้จะมาแต่งหน้าศพได้อย่างไร ส่วนหนึ่งก็อยากลองว่าจะมาจริงหรือไม่ จึงตอบรับไป
จนกระทั่งเมื่อปีใหม่คือต้นปีที่ผ่านมา แอมม่า ทักมาว่า "ถึงเมืองไทยแล้ว" ตนก็ยังไม่เชื่อว่าจะมาทำได้แต่ป้องกันการถูกหลอกเอาไว้แล้ว เมื่อไปรับที่สนามบินสตึก จึงรู้ว่าของจริง
หลังจากนั้นแอมม่า ได้มาอาศัยอยู่ที่บ้านแล้วออกตระเวนแต่งหน้าศพแบบมืออาชีพ พออยู่ได้ประมาณ 10 วัน แอมม่าก็กลับไต้หวั่น จนกระทั่งสงกรานต์นี้ แอมม่ากลับมาอีก มาพักอาศัยอยู่ที่บ้านอยู่กินกันเหมือนคนในครอบครัว แล้วออกไปแต่งหน้าศพตามที่ต่างๆ
ยอมรับว่าแอมม่า มีความมั่นใจสูง ไม่สนว่าศพจะเน่าหรือตายมาได้กี่วัน ตลอดเวลาที่มาอยู่เมืองไทย แอมม่าจะสอนการแต่งหน้าศพ การผสมสีเพื่อให้คนตายดูดีที่สุด ให้เหมือนคนนอนหลับมากที่สุดที่ผ่านมาชาวบ้านและญาติผู้ตาย ต่างมีความปลื้มใจ เพราะไม่คิดว่าคนสวยอย่างแอมม่าจะกล้าแต่งหน้าศพ