ข่าว

ผดส. เล่านาที สิงคโปร์แอร์ไลน์ส ตกหลุมอากาศ ส่ง 143 ชีวิตถึงปลายทางปลอดภัย

ผดส. เล่านาที สิงคโปร์แอร์ไลน์ส ตกหลุมอากาศ ส่ง 143 ชีวิตถึงปลายทางปลอดภัย

22 พ.ค. 2567

ผู้โดยสาร เล่านาทีระทึก เครื่องบิน SQ321 ตกหลุมอากาศ ก่อนชาวอังกฤษ์วัย 73 ปีเสียชีวิต คนไม่คาดเข็มขัดถูกดีดขึ้นชนเพดาน สายการบิน แจงสาเหุ ส่งอีก 143 ชีวิตถึงปลายทางปลอดภัย

วันที่ 22 พ.ค.67 สำนักข่าว reuters รายงานภายหลังจากผู้โดยสาร 211 คน และลูกเรือ 18 คนบนเครื่อง สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส เครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER เที่ยวบิน SQ321 มุ่งหน้าสู่สิงคโปร์ เที่ยวบินที่ได้รับผลกระทบจาก สภาพอากาศแปรปรวนอย่างหนัก เครื่องบินตกหลุมอากาศ และได้ขอลงจอดฉุกเฉินที่สนามบิสุวรรณภูมิ ประเทศไทย จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้โดยสารเสียชีวิต 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก 

 

นายเจฟฟ์ คิทเชน ผู้โดยสารชาวอังกฤษวัย 73 ปี เป็นผู้เสียชีวิตจากเหตุการเครื่องบิน สิงคโปร์แอร์ไลน์ ตกหลุมอากาศในครั้งนี้ โดยเบื้องต้นสันนิษฐานสาเหตุการเสียชีวิตว่าเกิดจากอาการหัวใจวาย 

นาทีระทึก เครื่องบินตกหลุมอากาศ

 

ซาฟราน อัซเมียร์ นักศึกษาชาวมาเลเซียวัย 28 ปี เล่านาทีขณะที่เครื่องบิน สิงคโปร์แอร์ไลน์ ตกหลุมอากาศ ให้กับสำนักข่าวรอยส์เตอร์ฟังว่า ตอนนั้นเหลือเวลาประมาณ 3 ชั่วโมงจะถึงสิงคโปร์ จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าเครื่องบินโบอิ้ง 777-300R ลำนี้เชิดหน้าขึ้น ก่อนจะเริ่มสั่น เขาจึงเตรียมตัวรับแรงกระแทก และตรวจสอบว่าตัวเองคาดเข็มขัดหรือยัง แต่มีผู้โดยสารหลายคนที่ไม่ได้คาด

 

"จู่ๆ เครื่องก็ดิ่งวูบอย่างรุนแรง จนทำให้คนที่นั่งอยู่แต่ไม่ได้คาดเข็มขัดถูกดีดขึ้นชนเพดานทันที บางคนหัวกระแทกกับช่องเก็บกระเป๋าโดยสารด้านบนจนบุบ บางคนชนกับส่วนที่เป็นดวงไฟกับพื้นที่เก็บหน้ากากจนแตก" อัซเมียร์กล่าว จากนั้น "ผู้คนก็ตกลงกับพื้น โทรศัพท์ของผมกระเด็นหลุดมือ ไปที่นั่งที่ห่างไป 2 ช่วง รองเท้ากระจัดกระจายไปทั่ว"

 

อลิสัน บาร์เกอร์ ชาวสหราชอาณาจักร เปิดเผยว่าเธอได้รับข้อความจาก "จอช" ลูกชายที่อยู่บนเที่ยวบินนี้ ซึ่งกำลังเดินทางไปเที่ยวบาหลี

 

"ผมไม่อยากทำให้แม่กลัว แต่ผมอยู่บนเที่ยวบินที่บ้าคลั่ง เครื่องบินต้องลงจอดฉุกเฉิน... ผมรักทุกคน"

 

หลังจากข้อความนั้น เธอรอลูกชายเป็นเวลาสองชั่วโมง เป็นสองชั่วโมงที่ "น่าหวาดหลัว" ก่อนจะได้รับการติดต่อจากเขาอีกครั้ง

 

"ตอนแรก เขานั่งอยู่กับที่คาดเข็มขัดนิรภัย อีกนาทีต่อมาเขาคงสลบไป และพบว่าตัวเองลงไปกองอยู่กับพื้นกับคนอื่น ๆ" แม่ของลูกชายที่อยู่บนเที่ยวบิน กล่าวกับบีบีซี

 

อลิสัน เปิดเผยว่า จอชได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่เธอมีความกังวลว่า ประสบการณ์เฉียดตายของลูกอาจส่งผลกระทบในระยะยาวต่อเขา

สายการบิน สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ชี้แจงสาเหตุของอุบัติเหตุร้ายแรง


จากข้อมูลของสายการบิน สิงคโปร์ แอร์ไลน์ เปิดเผยว่าบนเที่ยวบินดังกล่าว มีผู้โดยสารสัญชาติออสเตรเลีย 56 คน สหราชอาณาจักร 47 คน สิงคโปร์ 41 คน นิวซีแลนด์ 23 คน มาเลเซีย 16 คน และอีก 12 สัญชาติ

 

เที่ยวบิน SQ321 เผชิญหลุมอากาศรุนแรงอย่างกะทันหันขณะบินอยู่เหนือแม่น้ำอิรวดี ที่ความสูง 37,000 ฟุต หลังออกเดินทางจากกรุงลอนดอนได้ 10 ชั่วโมง ก่อนที่นักบินจะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน แล้วเปลี่ยนเส้นทางไปยังกรุงเทพมหานคร แล้วลงจอดในเวลา 15.45 น.

 

สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส นำผู้โดยสาร 131 คน และลูกเรือ 12 คน เดินทางไปยังปลายทางสิงคโปร์ ก่อนเวลา 05.00 น. (21.00 น. GMT) มีผู้โดยสาร 211 คน รวมทั้งชาวออสเตรเลีย ชาวอังกฤษ และสิงคโปร์จำนวนมาก และลูกเรือ 18 คนบนเที่ยวบินเดิม นักบินที่ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวยังคงอยู่ในกรุงเทพฯ

 

โกห์ ชุน ฟง ซีอีโอของสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส กล่าวว่า เครื่องบินประสบกับสภาพอากาศปั่นป่วนอย่างกะทันหัน จากนั้นนักบินก็ประกาศภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์และเปลี่ยนเส้นทางไปยังกรุงเทพฯ พร้อมกันนี้ในคำแถลงยังได้ระบุว่า "ในขณะนั้นเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง บ้างรุนแรงบ้าง"

 

บริการพยากรณ์อากาศ AccuWeather เมื่อวันอังคารกล่าวว่าพายุฝนฟ้าคะนองที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วใกล้กับเส้นทางการบินของเที่ยวบิน 321 น่าจะมีส่วนทำให้เกิดความปั่นป่วนรุนแรง

 

"พายุฝนฟ้าคะนองที่กำลังพัฒนามักมีกระแสลมขึ้นที่รุนแรง ซึ่งเป็นเขตอากาศที่เคลื่อนตัวขึ้นด้านบน ซึ่งลอยขึ้นอย่างรวดเร็ว บางครั้งมีความเร็วมากกว่า 100 ไมล์ต่อชั่วโมง และสามารถออกจากนักบินได้ก็จะมีเวลาน้อยที่จะตอบสนองหากเกิดขึ้นตรงหน้าเครื่องบิน" แดน เดอพอดวิน กล่าว , ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการพยากรณ์ของ AccuWeather

 

สำหรับผู้โดยสารอีกส่วนหนึ่งที่บาดเจ็บเล็กน้อยจำนวน 143 คน ได้เดินทางถึงสนามบินชางงีในสิงคโปร์แล้ว เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา

 

ข้อมูลจาก : reutersbbc

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง