กยท. เปิดตัวยางล้อ Greenergy Tyre ประสบผลสำเร็จ ชูจุดเด่นคุณภาพสูง
กยท.เปิดตัวยางล้อ Greenergy Tyre ประสบผลสำเร็จ เตรียมขยายการผลิตเพิ่ม ครอบคลุมการใช้งานรถทุกประเภท เผยจุดเด่น คุณภาพสูงได้มาตรฐาน ราคาถูก และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มั่นใจช่วยเพิ่มปริมาณการใช้ยางในประเทศ และสร้างเสถียรภาพยางพาราอย่างยั่งยืนได้
ดร.เพิก เลิศวังพง ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย (ประธานบอร์ด กยท.) เปิดเผยว่า ภายหลังจาก กยท.ได้เปิดตัวยางล้อยี่ห้อ Greenergy Tyre ภายใต้แนวคิดขับเคลื่อนทุกชีวิตสู่ความยั่งยืน อย่างเป็นทางการไป เมื่อเร็ว ๆ นี้ ประสบผลสำเร็จอย่างน่าพอใจ ยอดการผลิตในล็อตแรกจำนวน 20,000 เส้น ซึ่งเป็นยางเรเดียลสำหรับรถบรรทุกขนาดเล็ก(ปิคอัพ) และรถตู้ ถูกสั่งจองจากทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนครบเต็มจำนวน ขณะนี้อยู่ระหว่างการขึ้นไลน์ผลิตในล็อตต่อ ๆ ไป
โดย กยท.วางแผนที่จะผลิตยางล้อสำหรับรถยนต์ประเภทต่าง ๆ ทั้งหมด 8 ชนิด ไม่ว่า จะเป็นรถบรรทุกขนาดใหญ่ รถบัส รถเพื่อการเกษตร รถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถยนต์ขับเคลื่อน4ล้อ(ออฟโรด) รถจักรยานยนต์ เป็นต้น ทั้งนี้ ในการผลิตยางล้อ Greenergy Tyre กยท.ได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยมาใช้ในการผลิต ได้มาตรฐานสากล
ผ่านการทดสอบทุกขั้นตอน ทั้งการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยม มีความนุ่มนวล มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากกว่า 50,000 กิโลเมตร และยังให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมตั้งแต่กระบวนการผลิต ยางล้อทุกเส้นสามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งวัตถุดิบยางได้ว่ามาจากสวนยางพาราที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่อยู่ในพื้นที่ต้นน้ำ พื้นที่อนุรักษ์ และพื้นที่ป่า รวมทั้งจะต้องมีการจัดการสวนยางพาราที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและไม่ส่งผลกระทบต่อสังคม สอดรับกับกฎระเบียบ EU Deforestation-free Products Regulation (EUDR) ของสหภาพยุโรป(EU) ที่จะมีผลบังคับใช้ในปลายปีนี้ นอกจากนี้ กยท.ยังวางเป้าหมายที่ยกระดับคุณภาพสวนยางให้ตรงตามมาตรฐาน GAP และกระบวนการผลิตยางให้ได้มาตรฐาน GMP อีกด้วย
" จุดเด่นของยางล้อ Greenergy Tyre นอกจากเป็นยางที่ได้มาตรฐานสากล และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแล้ว ยังมีราคาถูกกว่ายางล้อทั่วไป ทั้งยังเป็นยางล้อที่ใช้ยางธรรมชาติจากสวนยางของเกษตรกรมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตมากกว่ายางล้อทั่วไปถึง 20% ซึ่งจะมีส่วนทำให้ราคายางมีเสถียรภาพ" ประธานบอร์ด กยท.กล่าว
ทางด้าน นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการ กยท. เปิดเผยว่า การผลิตยางล้อ Greenergy Tyre ของ กยท. เป็นอีกหนึ่งมาตรการที่จะเพิ่มปริมาณการใช้ยางในประเทศตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งอุตสาหกรรมยางล้อของไทยมีศักยภาพและมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าผลิตยางล้อได้มาตรฐาน คุณภาพสูง
ทำให้ไทยเป็นฐานการผลิตยางล้อรายใหญ่ ส่งออกกว่า10-20 ล้านเส้นต่อปี ผนวกกับการที่ EU จะบังคับใช้กฎระเบียบ EUDR ในปลายปีนี้ จะยิ่งเป็นแรงกระตุ้นให้อุตสาหกรรมยางล้อรวมทั้งอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่ใช้ยางเป็นวัตถุดิบเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น เนื่องจากขณะนี้ยางจากประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในเอเชียที่มีระบบตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งกำเนิดของผลผลิตยางที่นำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ยางได้
ผู้ว่าการ กยท.กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับวัตถุดิบยางที่นำมาผลิตยางล้อ Greenergy Tyre นั้น รับซื้อจากเกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียน โดยซื้อ-ขาย ผ่านตลาดกลางยางพารา ของ กยท. เพื่อส่งเข้าโรงงานแปรรูปเป็นยางแท่ง STR และส่งต่อไปยังโรงงานผลิต ซึ่งขณะนี้มีวัตถุดิบที่พร้อมนำไปผลิตยางล้อมากกว่า 4 ล้านตัน นอกจากจะขายให้แก่เกษตรกรและประชาชนทั่วไปที่มีความต้องการใช้ยางราคาประหยัดและมีคุณภาพได้มาตรฐานสากลแล้ว