ข่าว

เตือน "พายุดีเปรสชัน" ฉบับที่ 1 ไทยได้รับผลกระทบแค่ไหน เช็กพิกัดเสี่ยง

31 พ.ค. 2567

กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศ เตือน "พายุดีเปรสชัน" บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ฉบับที่ 1 ไทยได้รับผลกระทบมากน้อยแค่ไหน เช็กพิกัดเสี่ยง ฝนตกหนัก

กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศ เรื่อง "พายุดีเปรสชัน" บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ฉบับที่ 1 เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันนี้ (31 พ.ค. 67) "พายุดีเปรสชัน" บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน หรือมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 19.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 112.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุ นี้กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนืออย่างช้าๆ คาดว่าจะมีกำลังแรงขึ้นเป็น พายุโซนร้อน ในระยะต่อไป และมีแนวโน้มเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีนในคืนวันนี้ (31 พ.ค. 2567) หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็น "พายุดีเปรสชัน" และหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบ สภาพอากาศ ก่อนออกเดินทางในระยะนี้ไว้ด้วย

 

 

ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมี ฝนตกหนัก บางแห่ง และมี ฝนตกหนักมาก บางพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิด น้ำท่วมฉับพลัน และ น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มี ฝนฟ้าคะนอง ไว้ด้วย

 

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่าง ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

 

 

พายุดิเปรสชัน ฉบับที่ 1

 

"พยากรณ์อากาศ" เวลา 12:00 น.วันนี้ - 12:00 น. วันพรุ่งนี้

 

ภาคเหนือ

มี ฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมี ฝนตกหนัก บางแห่ง
บริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ ตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ 
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. 

 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมี ฝนตกหนักถึงหนักมาก บางแห่ง
บริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม ขอนแก่น กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ ศรีษะเกษ และอุบลราชธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

 

ภาคกลาง

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดสระบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม ราชบุรี สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

 

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด 
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15–35 กม./ชม. 
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

 

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา
อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15–30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

 

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70  ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง 
บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่จังหวัดกระบี่ขึ้นมา : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15–35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดตรังลงไป : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15–30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

 

กรุงเทพและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง 
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.