ป.ป.ช. คืนสำนวนฟอกเงินเว็บพนัน ให้ บช.น. ดำเนินคดีต่อ 15 คน ยกเว้น "บิ๊กโจ๊ก" - พวก
ป.ป.ช. ส่งสำนวนคดีฟอกเงินเว็บพนัน "BNK Master" คืน บช.น. ดำเนินคดีต่อ 15 คน ยกเว้น "บิ๊กโจ๊ก" กับพวกรวม 7 คน ดำเนินคดีต่อฐานความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ม.149-157
หลังจากที่คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ทำหนังสือขอสำนวนการสอบสวนจากสำนักงาน ป.ป.ช. คืนในคดีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฟอกเงิน สมคบกับฟอกเงิน และเป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันฟอกเงิน จากเว็บพนัน BNK Master รวมทั้งกลุ่มลูกน้อง และพลเรือนที่เป็นบัญชีม้า จำนวน 22 คน หลังจากใกล้ครบกำหนด 30 วัน หลังจากส่งสำนวนไปให้สำนักงาน ป.ป.ช. พิจารณาว่าเป็นคดีที่ผู้ต้องหามีความผิดในตำแหน่งหน้าที่ทางราชการ มาตรา 149 มาตรา 157 หรือไม่
7 มิ.ย. 2567 มีรายงานจากคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนชุดทำคดี ระบุว่า สำนักงาน ป.ป.ช. ได้ส่งสำนวนคดีดังกล่าวคืนให้กับคณะพนักงานสอบสวนแล้ว เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 6 มิ.ย. 2567 แต่ไม่ได้คืนสำนวนการสอบสวน และผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 22 คน กลับมาให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อ โดยส่งสำนวนของผู้ต้องหากลับมาเพียง 15 คน เหลือ 7 คน ที่สำนักงาน ป.ป.ช. ได้เก็บไว้ดำเนินคดีความผิดต่อหน้าที่ตามมาตรา 149 และ 157 ต่อ โดยทั้ง 7 คน ประกอบด้วย
- พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล
- พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร
- พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ
- ส.ต.อ.ณัฐวุฒิ หวัดแวว
- ส.ต.อ.ณัฐนันท์ ชูจักร
- น.ส.พิมพ์วิไล
- น.ส.เบญจมิน
โดยเหตุผลที่ สำนักงาน ป.ป.ช. ไม่สามารถส่งสำนวนของทั้ง 7 คน ให้กับพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อได้ เนื่องจากพบว่า ก่อนหน้าที่พนักงานสอบสวนจะส่งสำนวนให้กับสำนักงาน ป.ป.ช. พิจารณานั้น มี พ.ต.อ.ดุสิต พรหมสิน ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ได้เข้ามาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน ให้ดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.คริษฐ์ ในฐานความผิดตามมาตรา 149 และ 157
เพราะพบหลักฐานว่าใช้อำนาจหน้าที่ทางราชการเรียกรับผลประโยชน์เงินจากเว็บพนันออนไลน์ และมีผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย จึงจำเป็นต้องเก็บสำนวนไว้สอบสวนในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ซึ่งเป็นอำนาจของสำนักงาน ป.ป.ช. ส่วนบุคคลอื่นนั้นพบว่าไม่ได้อยู่ในอำนาจของสำนักงาน ป.ป.ช. จึงให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อ
แต่ในคดีนี้ คณะพนักงานสอบสวนเตรียมทำหนังสือแย้งไปที่สำนักงาน ป.ป.ช. เนื่องจากเห็นว่าสำนักงานป.ป.ช. ไม่ได้พิจารณาสำนวนของคณะพนักงานสอบสวน ที่ส่งไปให้ก่อนหน้านี้ ที่ระบุว่าเป็นการดำเนินคดีในฐานความผิดร่วมกันฟอกเงินเว็บไซต์พนันออนไลน์ ซึ่งเป็นคดีอาญา ไม่ได้มีการกล่าวหาว่าผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ และศาลได้ออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องก็ระบุว่า คดีนี้เป็นอำนาจของศาลอาญา แม้ว่าผู้ต้องหาที่ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนการออกหมายจับใหม่ถึง 3 ครั้ง แต่ศาลก็ได้ยกคำร้องทั้งหมด
นอกจากนั้นจะทำหนังสือถามถึง สำนักงาน ป.ป.ช. ให้อธิบายเหตุผลที่ยังไม่ส่งสำนวนของทั้ง 7 คน มาให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อ เพราะหากจะส่งคืนกลับมาที่พนักงานสอบสวนช้าเกินไป จะส่งผลต่อรูปคดี เนื่องจากผู้ต้องหาบางคน ได้ครบสัญญาประกันตัวในระยะเวลา 6 เดือน ในชั้นสอบสวนไปบางส่วนแล้ว เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2567 และบางคนก็ได้ยื่นคำร้องขอหลักทรัพย์ที่ประกันตัวไว้คนละ 100,000 บาท คืนจากพนักงานสอบสวนแล้ว ซึ่งก็ถือว่าหมดอำนาจการควบคุมตัวในชั้นพนักงานสอบสวน
ขณะเดียวกันพนักงานสอบสวนจะทำหนังสือหารือไปยังประธานศาลฎีกา เพื่อขอความเห็นแนวทางการดำเนินคดีนี้ หลังจากที่ศาลอาญาได้ระบุว่า คดีนี้เป็นคดีในอำนาจของศาลอาญา ซึ่งหากสำนักงาน ป.ป.ช. พิจารณาไต่สวนสำนวนที่เก็บไว้อีก 7 คน และหากไม่พบพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ อาจเป็นผลเสียต่อทางคดีได้ หรือ ส่งฟ้องไปยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง แล้วหากศาลเห็นว่าคดีไม่ได้อยู่ในอำนาจของศาล ก็จะส่งผลเสียต่อรูปคดีเช่นกัน เนื่องจากขั้นตอนนี้ต้องใช้ระยะเวลาการดำนินคดี รวมทั้งคดีอาจหมดอายุความได้