"กรมบังคับคดี" อนุญาตลุงวัย 63 ปี ถอนเงิน "เบี้ยผู้สูงอายุ" ถูกฟ้องล้มละลาย
"กรมบังคับคดี" แจง ทำหนังสือถึง ธ.ก.ส. อนุญาตลุงบุญยืน ถอนเงิน "เบี้ยผู้สูงอายุ" ได้แล้ว หลังถูกศาลพิทักษ์ทรัพย์คดีล้มละลาย 20 ล้าน
กรณีลุงบุญยืน ชายวัย 63 ปี ต้องคดีล้มละลายตกเป็นหนี้กว่า 20 ล้านบาท ทำให้ถูกธนาคารอายัดเงิน "เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ" ที่อยู่ในบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งเก็บสะสมตลอด 3 ปี เป็นเงินจำนวนรวมกว่า 2 หมื่นบาท ที่ไม่เคยเบิกเป็นเงินสดมาใช้สักครั้ง ทำให้เกรงว่าหลังจากนี้ตัวเองไม่มีเงินจะซื้อข้าวกิน
นางเพ็ญรวี มาแสง รองอธิบดีกรมบังคับคดี โฆษกกรมบังคับคดี เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวได้ถูกศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ทำให้ไม่สามารถทำนิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สิน จึงทำให้ไม่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีธนาคารได้ ซึ่งเป็นผลตามกฎหมาย ต่อมาลูกหนี้ได้มาให้การสอบสวนกิจการและทรัพย์สินต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์พร้อมแจ้งให้ทราบว่า เงินในบัญชีธนาคารดังกล่าวเป็นเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่จ่ายผ่านบัญชี ธ.ก.ส. สาขาท่าตะเกียบ
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตรวจสอบแล้วพบว่า เงินในบัญชีธนาคารดังกล่าวเป็นเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจริง จึงได้มีหนังสือไปยังธนาคารตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2567 อนุญาตให้ลูกหนี้ถอนเงินในบัญชีดังกล่าวได้แล้ว
ทั้งนี้ ในกรณีที่บุคคลใดถูกศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์แล้ว บุคคลดังกล่าวจะไม่สามารถทำนิติกรรมเกี่ยวกับทรัพย์สินได้ จึงอาจเกิดกรณีเช่นนี้ได้ แต่หากลูกหนี้มาพบและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แล้ว จะได้ชี้แจงขั้นตอนการปฏิบัติตนและให้การช่วยเหลือลูกหนี้ได้ต่อไป
สามารถสอบถามข้อมูลหรือขอรับคำปรึกษาเกี่ยวกับกฎหมาย ขั้นตอนในการบังคับคดีแพ่ง บังคับคดีล้มละลาย การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท และ การวางทรัพย์ ได้ที่ สำนักงานบังคับคดีทั่วประเทศ หรือโทร 0 2881 4999 หรือสายด่วนกรมบังคับคดี 1111 กด 79 หรือหาข้อมูลเพิ่มเติมผ่านเว็บไซต์กรมบังคับคดี www.led.go.th