ข่าว

สาวเครียดหนัก “เซ็นค้ำประกัน” ให้เพื่อน แต่กำลังจะ “ถูกยึดบ้าน”

สาวเครียดหนัก “เซ็นค้ำประกัน” ให้เพื่อน แต่กำลังจะ “ถูกยึดบ้าน”

25 มิ.ย. 2567

วอนช่วย “เซ็นค้ำประกัน” ให้กับเพื่อนสนิท แต่สุดท้ายตัวเองกำลังจะ “ถูกยึดบ้าน” 6 ชีวิตทั้งเด็ก คนชรา ผู้ป่วยติดเตียง กำลังจะเคว้ง ไร้ที่ซุกนอน

น.ส.พัชรินภรณ์ หรือ ติ๊ดตี่  ร้องผ่านสื่อ หลังจากเซ็นค้ำประกันให้เพื่อน สุดท้ายกำลังจะถูกยึดบ้าน

25 มิ.ย. 2567 น.ส.พัชรินภรณ์ หรือ ติ๊ดตี่ อายุ 32 ปี ชาว ต.หนองตะครอง อ.ละหานทราย จ. บุรีรัมย์ อาชีพรับจ้างทั่วไป ร้องขอความช่วยเหลือผ่านสื่อ หลังจากไป เซ็นค้ำประกัน ให้ น.ส.ปู (นามสมมุติ) เพื่อนสนิท ซื้อดาวน์รถ กระบะป้ายแดง เมื่อปี 2562 ซึ่งอดีตสามีของเพื่อนที่เสียชีวิตไปแล้วเป็นคนค้ำที่ 1 ส่วนตัวเองเป็นคนค้ำที่ 2  

 

แต่หลังจาก ซื้อดาวน์รถแล้วก็ไม่ได้ไปติดตามสอบถามว่าเขาชำระค่างวดหรือไม่อย่างไร เพราะคิดว่าเป็นเรื่องส่วนตัว และไว้ใจเพื่อน เขารับปากว่าจะไม่ทำให้เดือดร้อน กระทั่งเดือน ม.ค.2566 มีหมายศาลส่งมาหาที่บ้าน  เกี่ยวกับเรื่องรถยนต์ที่เพื่อนซื้อดาวน์แล้วไม่ได้ชำระค่างวดตามที่บริษัทไฟแนนซ์กำหนด หมายบังคับคดี ให้ ยึดบ้านและที่ดิน

 

ด้วยความตกใจจึงนำหมายศาลเดินทางไปหาเพื่อนที่บ้าน เพื่อนบอกว่าเดี๋ยวจะรับผิดชอบเอง โดยบอกให้ตนเซ็นมอบอำนาจให้เขา จะเป็นคนดำเนินการเองเรื่องที่ศาลเอง ด้วยความไว้ใจจึงไม่ได้ไปติดตามเรื่องอีก

แต่มาทราบภายหลังว่าเพื่อนไม่ได้ไปที่ศาลเลย และล่าสุด เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2567 ที่ผ่านมา ได้รับ หมายบังคับคดี ให้ยึดทรัพย์ บ้านพร้อมที่ดิน ที่อาศัยอยู่ในปัจจุบัน โดย บ้านและที่ดิน ทางบังคับคดีได้ประเมินในราคา 370,000 บาท แต่ยอดที่จะต้องจ่ายให้ไฟแนนซ์ที่เพื่อนค้างชำระค่างวดรวมต้นและดอกเบี้ย ประมาณ 600,000 บาท

 

ดังนั้นถึงแม้จะถูก ยึดบ้านและที่ดิน ไปแล้ว ก็ยังมีส่วนต่างที่จะต้องชดใช้อีกเกือบ 300,000 บาท ก็ไม่รู้จะไปหาที่ไหนมาจ่าย ทุกวันนี้ก็มีอาชีพแค่รับจ้างทั่วไป ทั้งต้องดูแลยายชรา และตาป่วยติดเตียงอีก

 

เดือน ก.ค.2567 ที่จะถึงนี้ หากไม่ไปติดต่อบังคับคดี ก็อาจจะถูก ยึดบ้านและที่ดิน เครียดมากเพราะไม่รู้ว่าจะพายายทาแก่ชรา ตาซึ่งป่วยติดเตียง น้า และหลาน 8 ขวบ รวม 6 ชีวิตไปอยู่ที่ไหน ไม่รู้จะหาทางออกยังไง

 

พยายามโทรติดต่อและไปหา เพื่อน ที่ บ้าน หลายครั้ง เขาก็รับปากว่าจะหาเงินไปจ่ายคืนให้ แต่ก็ไม่ทำตามที่รับปาก ไปถามอีกก็บ่ายเบี่ยงอ้างโน่นนี่ตลอด ทั้งอ้างว่ารถไม่ได้อยู่ที่เขา พ่อเอาไปใช้แล้วเป็นคนเอาไปจำนำต่ออีก

 

อยากฝากถึงเพื่อนให้เห็นใจด้วย เพราะตอนนี้ครอบครัวกำลังจะไร้ที่อยู่อาศัย แต่เพื่อนยังมีธุรกิจกินอยู่สบาย ถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญในชีวิตและอยากให้เป็นอุทาหรณ์ว่า อย่าไปเชื่อใจค้ำประกันอะไรให้ใคร ไม่งั้นก็จะเดือดร้อนเหมือนตน

 

สุดท้ายนี้ก็อยากวิงวอนให้นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น ช่วยเหลือด้วย

 

จากนั้นทีมข่าวได้เดินทางไปสอบถาม น.ส.ปู (นามสมมุติ) เพื่อน สนิท ที่ น.ส. ติ๊ดตี่ เซ็นค้ำประกัน ซื้อดาวน์รถ ให้ ให้ข้อมูลว่า ได้ไปขอให้เพื่อนช่วย ค้ำประกัน ซื้อดาวน์รถ ให้จริง ที่ผ่านมาส่งค่างวดเดือนละ 8,000 บาท มาเรื่อยๆ กระทั่งประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง จึงขาดส่ง จนถูกไฟแนนซ์ฟ้องให้ยึดรถ และให้จ่ายเงินส่วนต่าง

 

ช่วงแรกก็ให้พ่อไปติดต่อและทยอยจ่ายบ้าง แต่ระยะหลังหาเงินไม่ทัน จึงไม่ได้ไปจ่าย ส่วนรถกระบะไม่ได้อยู่กับตนเอง เพราะพ่อเป็นคนเอาไปใช้ พ่อบอกว่าเอาไปจำนำที่กรุงเทพฯ หลายปีแล้ว ตอนนี้ไม่รู้รถอยู่ไหน ตอนนั้นพ่อบอกว่าไปจำนำไว้ 150,000 บาท ยืนยันว่าไม่มีเจตนาเบี้ยวหรือไม่รับผิดชอบ แต่ตอนนี้ยังหาเงินไม่ได้ ถ้ามีเงินก็ยืนยันว่าจะรับผิดชอบแน่นอน