สุดปลื้ม แม่ค้าพลเมืองดี เก็บกระเป๋าคืน เจ้าของโร่รับ ตอบแทนน้ำใจงาม
แม่ค้าพลเมืองดี เก็บเงินเกือบ 2 หมื่นคืนเจ้าของ คาดว่าหล่นบนถนน ขณะที่ลงจากรถไปซื้อของ มอบรางวัล 2 พันบาท ตอบแทนน้ำใจ
1 ก.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.ท.วิลาสินี อาษานาม รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่บนโรงพัก มีนางปวีณา อายุ 45 ปี ชาวตำบลหมากแข้ง อ.เมือง อุดรธานี นำกระเป๋าเงินหนังสีดำ ภายในมีเงินเกือบ 2 หมื่นและเอกสารทางราชการ มาแจ้งว่า เก็บกระเป๋าเงินได้ ที่สี่แยกไฟแดงหลังเรือนจำอุดรธานี ถนนศรีชมชื่น เขตเทศบาลนครอุดรธานี นำมาแจ้งตำรวจให้ติดตามเจ้าของมารับ
นางปวีณา เล่าว่า ตนเป็นแม่ค้าขายเต้าหู้ก้อนที่ตลาดเทศบาล 1 เขตเทศบาลนครอุดรธานี ขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์จะไปตลาดเพื่อไปเอาเต้าหู้กลับมาแช่ที่บ้าน เพราะขายยังไม่หมด ตนขี่รถมาติดสัญญาณไฟแดงที่หลังเรือนจำ ปากซอยร้านต้อยลาบเป็ด กำลังจะตรงไปทางตลาดเห็นกระเป๋าเงินวางอยู่บนถนน จึงได้ขี่รถกลับมาดู เมื่อเปิดดูเห็นมีเงินจำนวนมาก และเอกสารเจ้าของกระเป๋า ตนตกใจจนตัวสั่นเลยได้นำกระเป๋าใส่ถุงพลาสติกแล้วรีบมาโรงพัก
"นำกระเป๋ามาแจ้งตำรวจก็เพราะว่าไม่ใช่ของตัวเอง และกลัวว่าเจ้าของกระเป๋าจะลำบาก เราก็ลำบากเหมือนกัน แต่เอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้าเงินหายไปก็จะลำบาก กว่าจะหาเงินได้แต่ละบาท ถ้าตนพบเจ้าของกระเป๋าก็จะบอกให้เขาเก็บไว้ดีๆ จะได้ไม่ตกหล่นอีก ก่อนหน้านี้ก็เคยเก็บเงินได้ แต่จำนวนเงินไปมากเท่านี้ หลังจากที่ตำรวจแจ้งเจ้าของกระเป๋าสตางค์แล้วตนก็รู้สึกสบายใจขึ้น และดีใจมาก เพราะเป็นห่วงว่าเจ้าของเงินจะลำบาก" นางปวีณา กล่าว
ตำรวจได้ตรวจสิ่งของในกระเป๋า มีเงินสด 19,680 บาท และเอกสารประจำตัวเจ้าของกระเป๋า ทราบชื่อนายสัมฤทธิ์ แก้วสุวรรณ อายุ 54 ปี ชาว อ.กุดจับ จ.อุดรธานี จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าของกระเป๋าให้เดินทางมารับต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ต่อมาประมาณ 10 นาทีนายสัมฤทธิ์ อายุ 54 ปี เจ้าของกระเป๋าได้เดินทางมารับกระเป๋าเงินจากตำรวจ พร้อมกับเล่าว่า ตนเปิดร้านขายวัสดุก่อสร้าง ที่ อ.กุดจับ ได้ขับรถยนต์มาซื้อของในตัวเมืองอุดรกับภรรยาและลูกสาว จึงได้แวะซื้อของบริเวณสี่แยกใกล้ร้านต้อยลาบเป็ด คาดว่าขณะที่ลงจากรถไปซื้อของ กระเป๋าเงินก็ได้หล่นจากรถ หลังจากซื้อของเสร็จ ตนก็ขึ้นรถแล้วขับออกไป เมื่อตนไปซื้อของอีกร้านแล้วเงินไม่พอ จึงได้เดินกลับมาเอาเงิน แต่กระเป๋าหาย ได้หาจนทั่วก็ไม่พบ “คาดว่าจะเป็นช่วงที่ตนอุ้มลูกสาวมานั่งตักตน แล้วกระเป๋าสตางค์ตกลงข้างประตู เมื่อตนเปิดรถลงไปซื้อของกระเป๋าสตางค์จึงตกลงไปที่ถนน ตนตกใจว่าเงินหายและคงไม่ได้คืน แต่พอตำรวจโทรไปบอกตนดีใจมากรับมาที่โรงพัก และพบกับนางปวีณา พลเมืองดีที่เก็บกระเป๋าเงินได้ ตนก็ขอขอบคุณนางปวีณที่เก็บกระเป๋าเงินได้ ตนจึงมอบสินน้ำใจให้กับนางปวีณา จำนวน 2,000 บาท”