#Saveทับลาน ชาวบ้านอยู่ได้ ตัดไฟกลุ่มทุน เปลี่ยนมือถือสิทธิ์ รุก 1.2 แสนไร่
#Saveทับลาน ลงชื่อคัดค้าน เพิกถอนที่ อุทยานแห่งชาติทับลาน #Saveชาวบ้าน คืนสิทธิ์ อยู่ร่วมป่าทับลาน ป้องกันนิรโทษกรรมหมู่กลุ่มทุนฮุบที่ 1.2 แสนไร่
#Saveทับลาน ลงชื่อคัดค้าน เพิกถอนที่ อุทยานแห่งชาติทับลาน #Saveชาวบ้าน คืนสิทธิ์ อยู่ร่วมป่าทับลาน ตัดไฟนิรโทษกรรมหมู่กลุ่มทุนฮุบที่ 1.2 แสนไร่
อุทยานแห่งชาติทับลาน พื้นที่ทับซ้อนระหว่างแนวเขตของ ป่าทับลาน กับพื้นที่อยู่อาศัย ทำกินของชาวบ้าน ปัญหาเรื้อรังยาวนานกว่า 40 นับตั้งแต่การประกาศเขตอุทยานแห่งชาติทับลานเมื่อปี พ.ศ.2524 จุดเริ่มต้นปัญหาอุทยานแห่งชาติทับลาน พื้นที่ทับซ้อนที่แก้ไม่ตกจนถึงปัจจุบัน
ปัญหาอุทยานแห่งชาติทับลาน 2567
จากการประชุมคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2567 ได้บรรจุหัวข้อการปรับปรุงแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน เป็นวาระเรื่องเพื่อทราบ ซึ่งถือเป็นการข้ามขั้นตอนการให้ข้อเสนอแนะอย่างละเอียดรอบคอบของคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ และประเด็นการเพิกถอนพื้นที่ดังกล่าว ได้มีการนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติมาแล้วถึง 2 ครั้ง โดยที่ประชุมได้มีข้อเสนอแนะให้มีการใช้แนวทางการแก้ไขปัญหาที่ดินของราษฎรในเขตป่าอนุรักษ์ ตามมาตรา 64 พ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562
มูลนิธิสืบนาคะเสถียร เครือข่าย และพันธมิตรด้านสิ่งแวดล้อม มีความกังวล เกี่ยวกับการเพิกถอนพื้นที่ อุทยานแห่งชาติทับลาน กว่า 265,000 ไร่ เนื่องจากการเพิกถอนเปลี่ยนแปลงแนวเขตดังกล่าว กระเทือนต่อความเป็นธรรมในการแก้ไขปัญหาให้แก่ราษฎรในป่าอนุรักษ์ ตามมาตรา 64 พ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 ที่ดำเนินการมาก่อนหน้านี้ รวมถึงอาจเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนและอาจก่อให้เกิดบรรทัดฐานการแก้ปัญหาพื้นที่ซ้อนทับในเขตอนุรักษ์อื่น ต่อเนื่องกันไปทั่วประเทศ การเพิกถอนพื้นที่ป่าอนุรักษ์เพื่อแก้ไขปัญหาจะไม่ใช่ข้อยุติ แต่กลับส่งผลให้มีการบุกรุกที่ดินของรัฐต่อไปในพื้นที่อื่น ๆ ตามมา
ยื่นขอทบทวน การเพิกถอนพื้นที่อุทยานทับลาน
มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ได้ขอให้เกิดการทบทวนการแก้ไขปัญหาการใช้ที่ดินเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ทรัพยากรป่าไม้ และสัตว์ป่าของประเทศชาติ
เพิกถอนที่ อุทยานแห่งชาติทับลาน ทำเพื่อใคร ชาวบ้าน ป่า หรือกลุ่มทุน ?
‘ภาณุเดช เกิดมะลิ’ ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร กล่าวว่า ในประเด็นที่ทางเครือข่ายอนุรักษ์ เป็นกังวลอยู่ ณ ขณะนี้
1. กลไกในการแก้การพิจารณาปัญหาในพื้นที่ ไม่ได้ใช้วิธีที่ถูกต้อง จึงอยากให้ทางกรรมาธิการที่ดิน ช่วยตรวจสอบในประเด็นดังกล่าว
2. ในส่วนพื้นที่ 2.6 แสนไร่ ทางมูลนิธิสืบฯ พบว่าในพื้นที่มีความหลากหลายของปัญหา ซึ่งแต่ละกลุ่มก็มีความหลากหลายทางด้านปัญหา ดังนั้นจึงไม่ควรเหมาเข่งในการแก้ไขปัญหา โดยใช้วิธีการเพิกถอนให้เป็นพื้นที่ ส.ป.ก. ในลักษณะเดียว
โดยกลุ่มที่ 1 เป็นราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศอุทยานแห่งชาติฯ ทับที่ดิน ควรได้รับการแก้ไขเป็นอันดับแรก โดยการหาแนวทางที่เหมาะสมในการดำเนินการ
ส่วนกลุ่มที่ 2 ที่อยู่หลังการประกาศอุทยานแห่งชาติตั้งแต่ปี 2524 จนถึงปี 2557 ก็มีการผ่อนปรนให้สามารถอยู่ในพื้นที่ได้ ตามมาตรา 64 พ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562
แต่สำหรับกลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มทุน ที่ดินที่มีการซื้อขายเปลี่ยนมือ เปลี่ยนแปลงพื้นที่ผิดวัตถุประสงค์ และคนที่บุกรุกพื้นที่หลังปี 2557
“ถ้าเราเหมาเข่งปัญหาทั้ง 3 พื้นที่ มารวมกันแล้วเพิกถอนจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน จะเป็นลักษณะของการนิรโทษกรรมหมู่ โดยที่ยังคงมีผู้กระทำผิดในพื้นที่ และทำให้กระบวนการการดูแลจัดการพื้นที่อนุรักษ์จะได้รับผลกระทบทั่วประเทศ” ภาณุเดช กล่าว
เพิกถอนผ่าทับลาน = จุดเชื้อไฟรุกป่าอื่น
ข้อกังวลสุดท้าย คือพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลานเป็นพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติ ในกลุ่มป่าดงพญาเย็นและเขาใหญ่ ซึ่งหากมีกิจกรรมที่เกิดขึ้นในพื้นที่ เฉพาะการเพิกถอนที่ดินอนุรักษ์ จะส่งผลกระทบต่อผืนป่าสัตว์ป่า และคุณค่าความสำคัญของการเป็นมรดกโลกอย่างแน่นอน ดังนั้นหากกลไกในการดำเนินเรื่องเหล่านี้ไม่เป็นไปอย่างชอบธรรม ส่วนตัวมองว่าจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีก่อให้เกิดผลกระทบกับพื้นที่อื่นต่อไป
ถ้าหากคุณต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมแสดงความคิดเห็น ต่อประเด็น เพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการคัดค้าน และ Saveทับลาน
คลิกที่นี่
ขั้นตอนการลงชื่อคัดค้านเพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ทับลาน
1. กรอกบัญชี E-mail และเลือกความคิดเห็นของเรา
2. กรอก ชื่อ-นามสกุล
3. กรอกอายุ
4. กรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชน
เสียงเฉียดล้าน ทวงที่ป่าทับลาน
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวถึงกรณีการเพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ว่า ขั้นตอนขณะนี้อยู่ในขั้นรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน หลังก่อนนี้ ครม. มีมติเมื่อวันที่ 14 มี.ค.66 ให้ใช้แนวเขตตามปี 2543 ซึ่งมติ ครม.ระบุไว้ชัดเจนว่าจะไม่มีผลคุ้มครองพื้นที่ที่ถูกดำเนินคดีตามกฎหมายไปแล้ว
ตอนนี้กรมอุทยานฯ จึงต้องดำเนินการรับฟังความคิดเห็น แล้วนำผลมาเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกรมอุทยานฯ ซึ่งวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เปิดรับฟังความคิดเห็น ล่าสุดมีผู้คนประมาณ 9 แสน กว่าราย ที่ร่วมแสดงความคิดเห็น
หลังจากนี้จะนำความคิดเห็นเหล่านี้ไปเสนอคณะกรรมการอุทยานฯ อีกครั้ง คณะกรรมการก็ต้องรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย เพราะพื้นที่กว่า 2.65 แสนไร่นี้ ปัจจุบันแม้จะแปรสภาพเป็นพื้นที่ทำกิน ทั้งพื้นที่เกษตรกรรม พื้นที่อยู่อาศัย พื้นที่ชุมชน บ้านพักตากอากาศ หรือแม้แต่พื้นที่ดำเนินคดีที่เป็นรีสอร์ท กว่า 12,000 ไร่ ต้องมาดูว่าจะมีมาตรการใดที่จะแก้ปัญหาให้ชุมชนที่ดีที่สุด
3 แนวคิดพิจารณา ยัน ไม่เฉือนทับลาน
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้แนวทางไว้ 3 แนวทาง 3 หลักการสำคัญคือ
• 1.ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และมีผลกระทบมากที่สุด ควรต้องได้รับความช่วยเหลือก่อนเป็นลำดับแรก
• 2.จะต้องไม่มีการเอื้อประโยชน์ให้ผู้กระทำผิด หรือผู้ที่กระทำไม่ถูกต้อง
• 3.เรื่องการบริหารจัดการพื้นที่มรดกโลก โดยเฉพาะพื้นที่ป่าในอุทยานแห่งชาติทับลาน ต้องมีการบริหารจัดการที่ถูกต้อง
ซึ่งยืนยันว่าเราไม่ได้มีการเฉือนพื้นที่ป่าออกไปแต่อย่างใด 3 แนวคิดหลักนี้ จะถูกนำไปประกอบการพิจารณาในคณะกรรมการอุทยานฯ
ถามว่าพื้นที่ทำกินของชาวบ้านจริง จะมีถึง 2 แสนกว่าไร่ตามที่ระบุหรือไม่ อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวว่า พื้นที่ 2 แสนกว่าไร่ ไม่ได้แยกออกมาเป็นส่วนว่าตรงไหนเป็นพื้นที่อยู่มาก่อน ส่วนไหนเป็นพื้นที่ซื้อต่อมือ 2, 3, 4 เพราะเป็นพื้นที่คละกันไป