ข่าว

“ลุงโชค” โพสต์ขอโทษชาววังน้ำเขียว รับผิดเป็นแกนนำฟื้นฟูป่า

“ลุงโชค” โพสต์ขอโทษชาววังน้ำเขียว รับผิดเป็นแกนนำฟื้นฟูป่า

13 ก.ค. 2567

“ลุงโชค” โพสต์ยอมรับผิดและขอโทษชาววังน้ำเขียว ที่เป็นแกนนำฟื้นฟูป่าทับลาน หวังให้คนอยู่กับป่าอย่างมีความสุข แต่ผลลัพธ์กลับจะถูกเฉือนพื้นที่

ลุงโชค

13 ก.ค.2567 กรณี อุทยานแห่งชาติทับลาน โดยสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดรับการรับฟังความคิดเห็น กรณีที่จะนำพื้นที่ป่าทับลานจำนวน  265,286.58 ไร่ จากพื้นที่ 1.4 ล้านไร่ ของพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ให้เป็นพื้นที่ ส.ป.ก. โดยเปิดให้ลงความคิดเห็น ในวันที่ 28 มิ.ย.-12 ก.ค.2567 ซึ่งได้ปิดโหวตไปแล้วช่วงคืนวันที่ 12 ก.ค.67 ปรากฏว่ามีประชาชน เข้าไปร่วมโหวตกัน ทั้งสิ้น 947,107 คน โดยผลสรุปคือ ประชาชนจำนวน 901,892 คน ไม่เห็นด้วย คิดเป็น 95.2% และมีประชาชนที่เห็นด้วย เพียง 45,215 คน คิดเป็น 4.8% นั้น

 

ล่าสุด วันนี้ นาย โชคดี ปรโลกานนท์ หรือ ลุงโชค อดีต แกนนำชาวบ้านปลูกป่าฟื้นฟูสภาพพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน กว่า 10,000 ไร่ ในเขต ต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว โพสต์เฟซบุ๊ก  “Loongchoke Unclechoke Garden” ภายหลังจากทราบผลการโหวต ว่า

เมื่อปี พ.ศ.2540 ผมคนหนึ่ง..ที่มีส่วนร่วมในการทำให้ชุมชนไทยสู่สามัคคีเปลี่ยนไป จากสังคมเกษตรสู่สังคมเมือง มีการปกครองและเศรษฐกิจชุมชนที่ดีขึ้น คนรุ่นเก่าก็ล้มหายตายจาก คนหนุ่มสาวยุคนั้นก็มีครอบมีครัว มีลูกมีหลานอีกมากมาย บางคนก็อพยพออกไปด้วยภาวะจำยอม ซึ่งอธิบายให้คนอื่นฟังเขาคงไม่เข้าใจ ดีไม่ดีเขาก็ว่าเรารักษาสมบัติของพ่อแม่ไปไม่ได้อีก

 

“ผมต้องขอโทษพ่อแม่พี่น้องตำบลไทยสามัคคีทุกท่าน ที่ผมคิดเองว่า ถ้าเราช่วยกันฟื้นฟูป่าให้กลับมาสมบูรณ์ ป่าไม้-สัตว์ป่าและระบบนิเวศกลับฟื้นมา จะส่งผลให้ชุมชนดีขึ้น ผมและเจ้าหน้าที่โครงการได้เสริมกระบวนการเรียนรู้เพื่อสร้างจิตสำนึกให้ท่านใช้ทรัพยากรให้น้อยลง ให้มีคุณค่ามากยิ่งขึ้น มาถึงวันนี้ผมรู้สึกผิดมากที่คิดอย่างนั้น และไม่เคยคาดคิดว่า สิ่งที่พวกเราทำในวันนั้น จะกลับมาทิ่มแทงตัวเราเอง

 

“มีคนหลั่งไหลมาเที่ยวที่นี่มากมาย บางคนมาเช้าเย็นกลับ บางคนก็อยากจะมาอยู่กับเรา บางคนก็ซื้อที่ดินจากพ่อแม่ของเรา พอชุมชนใหญ่ รัฐเองก็ไม่ได้ควบคุมผู้มาใหม่เหล่านั้น ปล่อยปละละเลย และมีม่านบังตา ปล่อยให้มีการพัฒนาที่ดินให้เหมือนบ้านผู้มีอันจะกิน หรือบางคนก็เปิดบริการให้คนมาพักซึ่งตอนก่อสร้างเขาไม่ได้สร้างวันเดียวแน่นอน อิฐหินปูนทรายก็ไม่ได้ใส่กระเป๋ากางเกงมา

 

“แต่ก็แปลกเจ้าหน้าหน้าที่รัฐกลับมองไม่เห็น เมื่อคนมาพักก็ส่งเสียงดังทุกเสาร์อาทิตย์รบกวนพวกเรา เราก็ไม่เคยบ่น แต่ก็มีบางคนว่ารบกวนสัตว์ป่า และที่สำคัญที่มาพักก็ไม่ใช่คนวังน้ำเขียว เราอยากจะถามเหมือนกันว่า ถ้าไม่มีคนพัก ผู้ที่มาอยู่ใหม่เขาก็คงไม่สร้างรีสอร์ทที่พักหรอกครับ พวกเราอยากจะรณรงค์เหมือนกัน ช่วยพักคือช่วยสร้าง แต่เราก็เป็นห่วงเพื่อนบ้านเรา ที่เขาพอจะมีรายได้จากการขายเห็ด ขายผักอินทรีย์ ขายผลไม้

 

“ซึ่ง ปัญหาทั้งหมดทั้งมวลล้วนแล้วเกิดมาจากผมและชุมชนช่วยกันฟื้นฟูป่า ผมต้องขอโทษพ่อแม่พี่น้องอีกครั้งหนึ่ง และสังคมที่ผมได้กระทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์"