ข่าว

รักษาพิลึก ร่างทรงฤาษีทักสาว 20 ป่วยมะเร็ง ช็อกหนักสั่งเปลื้องนวดรักษา

รักษาพิลึก ร่างทรงฤาษีทักสาววัย 20 ป่วยเป็นมะเร็ง ช็อกหนักสั่งเปลื้องรักษาอาการป่วย ไปเช็กโรคที่ รพ. หมอบอกไม่ป่วย ปกติดี

14 ก.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.กิ๊ฟ (นามสมมติ) วัย 20 ปี ชาวบ้าน ม.6 ต.ตะกุกเหนือ อ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี หลังถูกพ่อแม่บังคับให้ไปนวดรักษาโรคมะเร็ง กับสำนักฤาษีสำนักหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ใกล้บ้านของตน ซึ่งสำนักดังกล่าว มีชายอายุประมาณ 50 ปี อ้างว่าชื่อหมอพุธ เป็นร่างทรงพ่อปู่ฤาษี เปิดสำนักดูดวง แก้ของทางไสยเวช

รักษาพิลึก ร่างทรงฤาษีทักสาว 20 ป่วยมะเร็ง ช็อกหนักสั่งเปลื้องนวดรักษา

ภายในสำนักมีการติดป้ายประกาศ อัตราค่าธรรมเนียมชัด เริ่มต้นตั้งแต่ 300-3,000 บาท  ชาวบ้านในพื้นที่ ต่างหลงเชื่อ และเข้าไปใช้บริการเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านได้แอบถ่ายคลิปการนวดบางส่วน ที่เกิดขึ้นภายในสำนัก ซึ่งในคลิปจะเห็นเด็กสาว อายุ 14 ปี นอนเปลื้องผ้าท่อนบน ซึ่งหมอพุธได้นั่งนวดอยู่ข้างตัว และมีผู้ช่วยที่เป็นลูกศิษย์ของหมอพุธอยู่ด้วยอีก 2 คน

 

โดย น.ส.กิ๊ฟ เล่าให้ฟังว่า สำนักดังกล่าว ตั้งอยู่เกือบ 10 ปี ซึ่งพ่อและแม่ของตนก็เข้าไปเป็นลูกศิษย์อยู่ที่สำนักนั้นด้วย โดยในช่วง 3 เดือนก่อนหน้านี้ หมอพุธได้บอกแม่ตนว่าตนเป็นโรคมะเร็ง จำเป็นต้องพามาพ่นหมากพลู ต้มยากินและนวดรักษา ซึ่งแม่กับพ่อก็เชื่อและพาตนไปหาหมอพุธ

 

ในช่วงแรก หมอพุธก็ได้รักษาโดยใช้การพ่นหมากพลู โดยให้ตนถอดเสื้อผ้าทั้งหมดและพ่นใส่ทั่วร่างกาย บางครั้งหมอพุธก็จะมีการจับร่างกายของตนด้วย พอมาช่วงหลัง ทุกสัปดาห์ ตนก็ถูกพ่อแม่บังคับให้ไปนวด ซึ่งการนวดหมอพุธจะให้ถอดเสื้อผ้าทั้งหมด ทาน้ำมันว่านและหมอพุธก็จะนวดทั่วร่างกาย

ซึ่งตนรู้สึกไม่สบายใจ จึงไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ปรากฎว่าร่างกายของตนปกติดีไม่มีเชื้อมะเร็ง ตามที่หมอพุธบอก ตนจึงไม่อยากกลับไปรักษาที่สำนักของหมอพุธแล้ว แต่ทางพ่อและแม่ของตน ก็ยังเชื่อหมอพุธและบังคับให้ตนไปนวดทุกสัปดาห์

แม้กระทั่งวันนี้ (14 ก.ค.2567)  ตนมาเรียนที่ อ.เมืองพ่อ ก็ยังตามมาเฝ้าอยู่หน้าหอพักเพื่อที่จะบังคับให้ตนกลับไปนวด ซึ่งตนก็พยายามหลบไม่ให้เจอพ่ออยู่ นอกจากนี้ น.ส.กิ๊ฟยังกล่าวต่ออีกว่า ตนอยากให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบพฤติกรรมของหมอพุธ เพราะยังมีรุ่นน้องของตนอีกหลายคน ที่ถูกครอบครัวบังคับให้ไปรักษากับหมอคนนี้

 

ต่อมา เวลา 21.00 น. วันที่ 14 ก.ค. 2567 นางสาวแตงโม (นามสมมติ) ผู้เสียหายได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีเอาผิด กับเจ้าของสำนักดังกล่าว โดยผู้เสียหายได้เดินทางมาพร้อมกับน้าสาว และจะให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

 

รวมถึง นางประภาพรรณ เกตุแก้ว นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มการพัฒนาสังคมและสวัสดิการ พม. อยู่ในห้องสอบสวน ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายบอย (นามสมมติ) ญาติของนางสาวแตงโมให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ตัวเองพาหลานสาวมาแจ้งความ ดำเนินคดี กับเจ้าสำนักดังกล่าว ที่มีวิธีการรักษาผู้ป่วยที่ผิด โดยเจ้าสำนักดังกล่าวมีการมาทักหลานสาวตัวเองว่าป่วยเป็นโรคมะเร็ง กระทั่งหลานสาวได้ไปทำการรักษากับเขาที่สำนักดังกล่าวอยู่ประมาณหนึ่งปี และทุกครั้งที่ไปรักษาเขาก็จะใช้วิธีการให้ถอดเสื้อผ้าทั้งหมด

 

รักษาพิลึก ร่างทรงฤาษีทักสาว 20 ป่วยมะเร็ง ช็อกหนักสั่งเปลื้องนวดรักษา

ก่อนที่จะลูบคำจับหน้าอก และอวัยวะเพศหลานสาว โดยบอกว่าเป็นวิธีการรักษาเพื่อให้หาย กระทั่งครอบครัวช่วยพาน้องแตงโมไปรักษากับหมอที่โรงพยาบาล จนหมอตรวจร่างกายแล้ว พบว่าน้องแตงโมมีร่างกายแข็งแรงแข็งแรงปกติ ไม่ได้ป่วยเป็นมะเร็งตามที่เจ้าสำนักดังกล่าวกล่าวอ้างอ้าง ซึ่งตัวเองยืนยันว่าจะเอาเรื่องเจ้าสำนักดังกล่าว และผู้ที่เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด

รักษาพิลึก ร่างทรงฤาษีทักสาว 20 ป่วยมะเร็ง ช็อกหนักสั่งเปลื้องนวดรักษา

และก่อนหน้านี้ ก็มีชาวบ้านจำนวนมากที่หลงเชื่อเจ้าสำนักรายนี้ แล้วไปรักษาด้วยวิธีดังกล่าวส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีคนในหมู่บ้านไปรักษากับเจ้าสำนักรายนี้มาแล้ว แต่ก็ไม่ได้หายจากอาการปวดแต่อย่างใด ซ้ำยังเสียชีวิตอีกด้วย ด้วยเหตุการณ์ครั้งนี้ยอมรับว่าตัวเองรู้สึกไม่พอใจ พ่อและแม่ของน้องแตงโม เนื่องจากพ่อและแม่ของน้องแตงโมเขา เป็นลูกศิษย์ของเจ้าสำนักดังกล่าว แล้วก็หลงเชื่อเจ้าสำนักดังกล่าวค่อนข้างมาก