ข่าว

สั่งปิดโรงงาน น้ำปลาร้า ยี่ห้อดัง หลังตรวจพบ ผิดกฎหมาย พ.ร.บ.โรงงาน

สั่งปิดโรงงาน น้ำปลาร้า ยี่ห้อดัง หลังตรวจพบ ผิดกฎหมาย พ.ร.บ.โรงงาน

19 ก.ค. 2567

ขอนแก่น สั่งปิดโรงงาน น้ำปลาร้า ยี่ห้อดัง หลังชาวบ้านร้องเรียนส่งกลิ่นเหม็น ตรวจสอบพบเปิดกิจการ ผิดกฎหมาย พ.ร.บ.โรงงาน

19 ก.ค. 2567 มีรายงานว่า นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เร่งประสานสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น (สอจ.ขอนแก่น) ตรวจสอบข้อเท็จจริงทันที กรณีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากโรงงานปลาร้าชื่อดัง จำนวน 2 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ที่ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งและปล่อยน้ำเสียลงหนองน้ำและในที่ดินของประชาชน ซึ่งเป็นปัญหาสะสมมานานกว่า 7 ปี นับตั้งแต่ปี 2560

 

โดยจะมีกลิ่นเหม็นคาวปลาโชยตามกระแสลมมากกว่าปกติในช่วงฤดูร้อน แม้ว่าประชาชนจะพยายามร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ อาทิ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 10 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่โรงงานยังคงดำเนินการปรับปรุงไม่แล้วเสร็จ ส่วนโรงงานอีกแห่งกลับถูกตรวจพบว่าไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (ร.ง.4)

 

นายจุลพงษ์ กล่าวว่า จากการประสานงานเบื้องต้นกับ สอจ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการกำกับดูแลโรงงานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น โดยมีพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ. 2535 ลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า โรงงานผลิตน้ำปลาร้าทั้ง 2 แห่ง ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลบ้านดง อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ประกอบกิจการผลิตน้ำปลาร้าสำเร็จรูปบรรจุขวด

โรงงานแห่งแรก สอจ.ขอนแก่น สั่งการตามมาตรา 37 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ให้โรงงานปรับปรุงระบบบำบัดมลพิษทางอากาศและระบบจัดเก็บวัตถุดิบในอาคารโรงงานให้เป็นไปตามเงื่อนไขการอนุญาต โดยกำหนดปรับปรุงแก้ไขให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2567 แต่โรงงานขอขยายระยะเวลา เนื่องจากอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบหม้อต้มให้ทันสมัยไร้กลิ่น รวมทั้งการจัดเก็บวัตถุดิบในถังที่มีฝาปิดมิดชิด เพื่อป้องกันกลิ่นเหม็นที่อาจส่งผลกระทบต่อชุมชนที่อาศัยใกล้เคียง สอจ.ขอนแก่น จึงอนุญาตให้ขยายระยะเวลาปรับปรุงถึงวันที่ 30 สิงหาคม 2567 เพื่อให้โรงงานสามารถดำเนินการปรับปรุงแก้ไขให้แล้วเสร็จอย่างมีประสิทธิภาพ

 

โรงงานแห่งที่ 2 ตรวจสอบพบว่าสถานประกอบการมีลักษณะเข้าข่ายเป็นโรงงานจำพวกที่ 3 แต่ไม่พบใบ ร.ง.4 ในระบบงานอนุญาตของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนการปฏิบัติตามมาตรา 12 วรรคหนึ่ง วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ. 2535 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

 

ทั้งนี้ สอจ.ขอนแก่น เตรียมสั่งการตามมาตรา 37 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ. 2535 ให้หยุดประกอบกิจการจนกว่าจะได้รับการอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน โดยให้มีผลนับถัดจากวันที่โรงงานรับทราบคำสั่ง