ข่าว

สิ้น ‘หลวงตาลิน’ พระเกจิดังหนองบัวลำภู

สิ้น ‘หลวงตาลิน’ พระเกจิดังหนองบัวลำภู

20 ก.ค. 2567

ลูกศิษย์เศร้ารับวันอาสาฬหบูชา สิ้น ‘หลวงตาลิน’ พระเกจิดังหนองบัวลำภู กำชับให้ทำการเผาบนกองฟอนภายใน 24 ชั่วโมง

ที่วัดศรีบุญเรืองบุตราราม จ.หนองบัวลำภู ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระครูวิมลธรรมากร (หลวงตาลินทอง จูตุดมโล) เจ้าอาวาสวัตศรีบุญเรืองบุตราราม มรณภาพ สำหรับหลวงตาลินทอง เป็นอดีตเจ้าคณะอำเภอโนนสัง โดย ก่อนมรภาพหลวงตาลิน เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอโนนสัง เป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ละสังขาร เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2567 เวลา 01.38 น. ณ กุฏิเจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรืองบุตราราม ซึ่งตรงกับวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา นั้นคือวันอาสาฬหบูชา ภายหลังแพทย์อนุญาตให้หลวงลินได้สั่งพระอุปัฏฐากไว้ก่อนมรณภาพ และได้ออกจากโรงพยาบาลอำเภอโนนสัง เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 19 กรกฎาคม 2567

สิ้น ‘หลวงตาลิน’ พระเกจิดังหนองบัวลำภู

สำหรับ พระครูวิมลธรรมากร (หลางตาลินทอง จูตุตมโล) เจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรืองบุตราราม เข้ารับการรักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2567 คณะแพทย์ได้ให้การรักษาอย่างใกล้ชิดเต็มความสามารถ จนถึงวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 หลวงตาลินทอง  มีอาการทรุดลง และได้แจ้งความประสงค์กับทางคณะแพทย์ขอเดินทางกลับไปพำนักรักษาตัวที่วัดศรีบุญเรืองบุตราราม ซึ่งคณะแพทย์จึงพิจารณาให้ออกมาพักตามเจตนาดังกล่าว โดยได้ประสานงานให้อยู่ในการดูแลของคณะแพทย์โรงพยาบาลโนนสังเพื่อทำการดูแลอย่างใกล้ชิด กระทั่งวันที่ 20 กรกฎาคม 2567 เวลา 01.38 น.หลวงตาลินได้ละสังขารอย่างสงบ สิริอายุ 74 ปี 7 เดือน 19 วัน 54 พรรษา คณะแพทย์ผู้รักษา ศิษยานุศิษย์ จึงขอแจ้งข่าวการมรณภาพ ของพระครูวิมลธรรมากร (หลวงตาลินทอง จุดตมโล) ให้ได้ทราบ โดยทั่วกัน

ข่าวการละสังขารของหลวงลินได้เผยแพร่ทางสื่อโซเซียล อย่างรวดเร็ว คณะสงฆ์ ศิษยานุศิษย์ แม้ปู่ฤาษีเกษแก้ว แห่งพุทธสถานบ้านโคกกุง ต.บ้านขาม อ.เมืองหนองบัวลำภู ที่ทราบข่าวได้เดินทางมาร่วมพิธีตั้งแต่เช้า และในวันเดียวกัน พระครูโกวิทสุตาภรณ์ (ดร.พระมหาสมดีฯ) เจ้าอาวาสวัดศิริชัยเจริญ อำเภอโนนสัง ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดได้นำข้อมูลที่เป็นบันทึกเสียงของหลวงตาลิน ที่ได้บันทึกไว้เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2565 โดยได้ประชุมสั่งการเกี่ยวกับพิธีสลายสรีระธาตุขันธ์ อันเป็นความประสงค์ และเป็นคำสั่งสุดท้ายที่ต้องซึ่งหลวงตาลิน ได้สั่งไว้ในขณะที่ท่านมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ครบถ้วน

 

สิ้น ‘หลวงตาลิน’ พระเกจิดังหนองบัวลำภู

มีพยานบุคคลดังนี้ พระอ่อนสา ชยโสภโณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรืองบุตราราม พระปลัดวรพจน์ อินุทปญฺโญ (อาจารย์เอก) คุณพัชรินทร์ บุตรดี (โยมกบ/บุตรบุญธรรม) และ พระปริญญา ชาตเมธี ผู้บันทึกเทป โดยข้อปฏิบัติตามคำสั่ง 8 ข้อของหลวงตาลินมีใจความว่า เก็บร่างไว้ 1 วัน (ไม่เกิน 24 ชั่วโมง) ไม่ให้บรรจุหีบ ให้นำร่างขึ้นกองฟอนทันที สถานที่ให้จัดใต้ร่มต้นมะม่วงหน้าพิพิธภัณฑ์หลวงตาลิน ให้คณะสงฆ์สวดมาติกา 1 รอบ ให้บังสุกุลรวม 1 รอบ ให้พระมหาเถระที่มีอายุกาลพรรษาสูงที่สุด 1 รูป เป็นผู้พิจารณาผ้ามหาบังสุกุล ให้คณะสงฆ์ให้ร่วมพิจารณามรณานุสติ ให้เกิดประโยชน์สูงสุงสุดต่อพระศาสนา เถ้ากระดูกให้เก็บไว้รวมกันที่เดียวในพิพิธภัณฑ์หลวงตาลิน (ตรงกลางพิพิธภัณฑ์) ข้อสำคัญห้ามประดับตกแต่งอะไรทั้งสิ้น

และมีข้อห้ามปฏิบัติ 2 ข้อคือไม่ให้เลื่อนกำหนดการปลงสรีระลังขาร ใครมาทันก็ทันไม่ทันไม่เป็นไร แล้วแต่บุญแล้วแต่โอกาส ไม่ให้จัดประดับตกแต่งสถานที่ ขอให้เป็นโปโดยธรรมชาติมากที่สุด หมายเหตุ ขอความร่วมมือให้ศิษย์ยานุศิษย์และญาติโดยทุกคน ปฏิบัติตามเจตจำนงที่ได้กล่าว

 

สำหรับการเผาร่างของหลวงตาลิน ศิษยานุศิษย์ได้ดำเนินการตามที่หลวงตาลินได้สั่งไว้และจะนำสังขารหลวงตาเผาร่างในวันนี้ ในช่วงเวลา 24.00 น. บริเวณหน้าพิพิธภัณฑ์หลวงตาลิน ภายในวัดศรีบุญเรืองบุตราราม เพื่อให้ดวงวิญญาณของตาลินไปจำพรรษาบนสวรรค์ชั้นดาววดึงส์ตามเจตนารมย์ของหลวงตาต่อไป

 

 

พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ ชัยชนะสกุล ผกก.สภ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู ผู้ที่ได้ถวายตัวเป็นลูกศิษย์ของหลวงตาลิน กล่าวหลังทราบข่าวรู้สึกเศร้าสลดใจที่หลวงตาละสังขาร ในขณะตนเองวันนี้ต้องพักรักษาตัวเนื่องจากติดโควิด-19 สายพันธ์เอ ไม่สามารถไปร่วมส่งร่างของหลวงตาได้ แต่ก็จะขอนั่งสมาธิอธิษฐานจิตส่งดวงวิญญาณของหลวงตาสู่สรวงสวรรค์

 

“เมื่อครั้งตนเองดำรงตำแหน่ง สวป.สภ.โนนสัง ได้มีโอกาสมากราบหลวงตาลิน และสิ่งที่หลวงตาลินได้มอบให้เป็นเหรียญวัตถุมงคลของหลวงตาลินที่ผ่านการปลุกเสกขึ้นมาเองในรุ่นแรก ตนเองจะไปไหนมาไหนสวมคล้องคอตลอดเวลา มาวันหนึ่งเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่ผ่านมาตนเองมีธุระได้ขับรถยนต์ไปคนเดียวและเกิดแหกโค้งรถพลิกคว่ำหลายตลบ จนรถยนต์พังเสียหาย แต่ตนเองกลับไม่เป็นอะไรเลย นึกขึ้นได้ตนเองก็เลยสงสัยว่าคงมีเหรียญหลวงตาลินอยู่องค์เดียวที่มีอยู่และทำให้มีชีวิตรอดมาได้ทุกวันนี้ เพราะอิทธิปาฏิหาริย์ของหลวงตาลินเป็นแน่แท้ หลังจากนั้นตนเองก็ถวายตัวเป็นลูกศิษย์ของหลวงตาตราบเท่าทุกวันนี้”