ข่าว

อาจารย์ ม.ดัง แนะใช้ “ไซยาไนด์” ยาแรง กำจัดปลาหมอคางดำ

อาจารย์ ม.ดัง เชียงใหม่ เสนอใช้ “ไซยาไนด์” ปราบเอเลียน สปีชีส์ “ปลาหมอคางดำ” ในพื้นที่วิกฤตหนัก แต่ต้องศึกษาอย่างละเอียด

26 ก.ค.2567 กรณีของ ปลาหมอคางดำ เอเลียน สปีชีส์ ที่ตอนนี้มีการแพร่ระบาดอย่างหนัก และกำลังพยายามที่จะหาหนทางกำจัด เพราะกระทบกับระบบนิเวศ และสัตว์น้ำประจำท้องถิ่นของไทยเป็นอย่างมาก

 

ล่าสุด รศ.ดร.อภินันท์ สุวรรณรักษ์ อาจารย์ คณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ มหาวิทยาลัย แม่โจ้ เปิดเผยว่า ปลาหมอคางดำสามารถเคลื่อนตัวได้ทุกน้ำ เกิดง่ายตายยากสามารถปรับสภาพอยู่ได้ในทุกสภาพน้ำ ทั้ง น้ำจืด น้ำกร่อย น้ำเค็ม น้ำเน่า ไปไหนมาไหน ก็จะมีการเอาลูกเอาไว้ในปาก อัตราอัตราการรอดก็จะสูง ดังนั้นอัตราการเกิดก็เกือบจะ 100% ก็ทำให้การแพร่กระจายมันเร็ว

ตอนนี้ทุกคนพยายามทำความเข้าใจในเรื่องของ ปลาหมอคางดำ ช่วยกันหาวิธีจัดการ แต่ถ้าวันหนึ่งที่วิกฤตจริงๆหาทางออกไม่ได้ก็ต้องมีวิธีการจัดการอย่างเฉียบพลัน แต่เป็นวิธีการที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ต้องเข้าใจและศึกษาอย่างถ่องแท้ว่าจะมีผลอย่างไร เป็นวิธีการที่ค่อนข้างที่จะฟังดูน่าตกใจ นั้นก็คือใช้ ไซยาไนด์ จัดการ ปลาหมอคางดำ 

 

บางครั้งในกรณีที่วิกฤตหรือไม่สามารถควบคุมได้ หรือสัตว์ที่มีความสามารถที่ปรับตัวเก่งเกินไป ก็มีวิธีการหนึ่งที่สามารถลองดูได้ อย่าง ไซยาไนด์ แต่ใช้ในบางพื้นที่ที่ไม่สามารถใช้วิธีการอื่นๆ ได้แล้ว หรือลองแล้วยังไม่ได้ผล ซึ่งอาจจะทดลองในพื้นที่เล็กๆหรือพื้นที่จำกัดที่สามารถควบคุมได้ ถ้าเป็นแหล่งน้ำเปิดควบคุมไม่ได้ก็จะสร้างความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ได้เช่นกัน

 

รศ.ดร.อภินันท์ เปิดเผยว่า ไซยาไนด์เป็นสารต้องห้าม และเป็นเรื่องใหญ่มาก ไม่ใช่ว่าใครจะทำได้ ต้องเป็นระดับรัฐบาล คนมีอำนาจในการอนุมัติในเรื่องนี้ ถึงจะสามารถทำได้ สำหรับ ไซยาไนด์ เป็นสารประจุลบในเหงือกปลามีการดูดซึมมีประจุบวกอยู่เยอะ การดูดซึมเข้าในกระแสเลือดของปลาก็จะเข้าไปกัดฮีโมโกบินและเม็ดเลือดของปลา เมื่อเม็ดเลือดมันจับตัวกับไซยาไนด์ ปลาก็จะไม่สามารถหายใจได้ เลือดไม่หมุนเวียนก็ทำให้ปลาตาย ปลาอื่นๆก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย

 

ถ้าเราจะเลือกใช้วิธีการนี้สิ่งสำคัญพื้นที่ตรงนั้นจะต้องเฉพาะพื้นที่ที่มี ปลาหมอคางดำ จำนวนมาก เป็นพื้นที่วิกฤตที่ไม่สามารถจัดการได้ ดังนั้นต้องมีการสำรวจปลาชนิดอื่นๆหรือสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆว่าในพื้นที่นั้นๆว่ามีโครงสร้างประชากรสัดส่วนมากน้อยเพียงใด หากมีน้อยมากๆหรือแทบไม่มีก็ต้องมีการพูดคุยในการดำเนินการด้วย ไซยาไนด์

 

แต่หากยังมีสัตว์ชนิดอื่นๆอยู่ในบริเวณนั้นได้ อาจจะต้องใช้วิธีอื่นๆเพราะว่าประชากรสามารถปรับตัวได้ ถ้าธรรมชาติสู้กับธรรมชาติ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการนี้

 

นอกจาก การใช้ไซยาไนด์แล้ว ก็มีเรื่องของการช็อตไฟฟ้า ในกรณีที่วิกฤตทำให้ความหลากหลายทางชีวภาพของปลาไทยพื้นเมืองแทบจะไม่มี ก็สามารถนำเอามาใช้ได้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับการควบคุมและการอนุญาตจากรัฐบาล

 

“งานวิจัยจะเป็นสิ่งสำคัญในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับปลาหมอคางดำ หาวิธีหยุดการกระบวนการออกไข่ของปลาหมอคางดำ ต้องศึกษาเรียนรู้เพื่อให้เข้าใจพฤติกรรมอย่างถ่องแท้ เรื่องของการบริหารจัดการของชุมชนการให้ความรู้ของบุคคลในท้องถิ่นจะต้องมีความเข้าใจ เมื่อมีปลาหมอคางดำอยู่แล้ว จะต้องทำยังไงต่อไป“ รศ.ดร.อภินันท์ กล่าวและว่า

 

อย่างไรก็ตามพื้นที่ภาคเหนือ ยังไม่พบรายงานว่า เจอปลาหมอคางดำ การแพร่กระจายกว่าจะขึ้นมาในพื้นที่ภาคเหนือน่าจะใช้เวลาหลายปี แต่ก็ห้ามประมาทเพราะมีความเป็นไปได้ แต่สิ่งที่น่าห่วงก็คือการติดมากับลูกปลาชนิดอื่นๆเพราะตอนที่ยังเป็นลูกปลาสามารถคัดแยกได้ยากมาก ก็อาจจะมีโอกาสหลุดลงไปในแหล่งน้ำได้ ก็ต้องมีความระมัดระวังในการขนส่งปลาข้ามจังหวัดหรือภูมิภาค

ข่าวยอดนิยม