ข่าว

บิ๊กซีพีเอฟ ยันไม่ใช่ต้นตอระบาด “ปลาหมอคางดำ” พร้อมชี้เป้าจุดผิดสังเกต

01 ส.ค. 2567

ผู้บริหารซีพีเอฟ ออกโรงตอบโต้ ยันไม่ใช่ต้นตอการแพร่ระบาดของ “ปลาหมอคางดำ” เผยแผนพัฒนาสายพันธุ์พับไปนานแล้ว พร้อมชี้เป้าจุดผิดสังเกต เรื่องการส่งออก 3 แสนตัว

1ส.ค.2567 ที่อาคารรัฐสภา คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สภาผู้แทนราษฎร นำโดย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทย ในฐานะประธานคณะ กมธ. ประชุมพิจารณามาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ ปลาหมอคางดำ โดยเชิญ เลขาคณะกรรมการกฤษฎีกา และอธิบดีกรมบัญชีกลาง

 

นอกจากนี้ ยังมีวาระสำคัญ คือ การพิจารณาโครงการหรือแนวทางของบริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ในการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่เกิดจากการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ ซึ่งตัวแทนฝั่งซีพีเอฟที่มาชี้แจงนั้น มีนายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ในฐานะประธานคณะผู้บริหาร

 

ภายหลังประชุมเสร็จ  นายประสิทธิ์ ได้ออกมาเจอกับผู้สื่อข่าว ให้สัมภาษณ์ว่า การเข้าชี้แจงในวันนี้ไม่มีอะไรเพิ่มเติม เป็นการให้ข้อมูลตามที่เคยแจ้งไว้ ส่วนโครงการช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากปลาหมอคางดำ ก็คงเป็นไปตาม 5 โครงการที่ทำอยู่  ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ หลักๆที่มาชี้แจงวันนี้ก็เป็นเรื่อง 5 โครงการนี้เป็นหลัก

affaliate-1

ขอเรียนเพิ่มเติมว่า ยังมีอีกสองสถาบันที่อยากเข้ามามีส่วนร่วม เราก็ได้เรียนกับคณะกรรมาธิการ ว่าจะมีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยแม่โจ้  ที่เข้ามาร่วมโครงการนี้  ซึ่งโครงการเหล่านี้จะสนับสนุนมาตรการของรัฐบาล  เราก็คิดว่าควรมีส่วนช่วยเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น  ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใดก็ตามแต่ จะเกี่ยวข้องกับบริษัทหรือไม่เกี่ยวข้อง เหมือนกับช่วงโควิด เราก็ถือเป็นบริษัทหนึ่ง ก็เข้าไปช่วยส่งอาหารไปตามที่ต่างๆ จำนวนหลายล้านกล่อง คงเป็นลักษณะคล้ายคลึงกัน

 

เราคงตั้งเป้าหมายว่า จะดึงปลาออกจากระบบให้เร็วที่สุด ประมาณ 2 ล้านกิโลกรัม และคงสนับสนุนปลาอีก 2 แสนตัว ในการช่วยกำจัดให้เร็วขึ้น ส่วนเรื่องอื่นจะเป็นเรื่องงานวิจัย ก็ต้องดูว่าผลการวิจัยสามารถใช้ประโยชน์ได้มากน้อยแค่ไหนนายประสิทธิ์ กล่าว

 

เมื่อถามว่าจะมีการเปิดเผยภาพหลักฐานบ้างหรือไม่ นายประสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นไปตามที่แจ้ง อาจจะพูดมากไม่ได้ เพราะอาจจะมีการที่บางท่านเอาภาพที่ไม่ถูกต้องมาเผยแพร่ แต่ยืนยันว่าได้ส่งให้กับทางกรมประมง

 

นายประสิทธิ์ ย้ำว่า สิ่งที่เราชี้แจงไปเพียงพอแล้ว ส่วนที่คนสงสัยเรื่องภาพ ตามกระบวนการนั้นเราก็ให้คนติดต่อ นำไปให้ตามจำนวนปลาที่ตกลงกัน  ย้ำว่ามีกระบวนการจัดการที่เป็นมาตรฐาน 

 

กับเรื่องที่ มีการส่งออก ตั้ง 3 แสนกว่าตัว ห่างกัน 150 เท่า ผมคิดว่าเอ๊ะ น่าจะไปพิจารณาว่าการแพร่กระจาย มันเกิดจากอะไรกันแน่นายประสิทธิ์ กล่าว

 

นายประสิทธิ์ ยืนยันว่า การแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำไม่ได้เกิดจากซีพีเอฟ ส่วนเกิดจากอะไรนั้นก็คงต้องให้คณะกรรมาธิการ หรือหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องติดตาม

 

ฝากนักข่าวไปลองพิจารณาเพิ่มเติม ว่า 2,000 ตัว กับ 3 แสนกว่าตัว ที่ส่งออกนะครับ ไม่ใช่นำเข้า เอ๊ะ มันมาจากไหน เราคงคอมเมนต์มากไม่ได้นายประสิทธิ์ กล่าว

 

ส่วนน่าจะมีบริษัทอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ นายประสิทธิ์ กล่าวว่า มันมีข่าวอยู่แล้วนี่ครับ มีหลักฐานอยู่แล้วว่ามีจำนวนการส่งออก ปลาหมอคางดำ จาก 11 บริษัท ไป 17 ประเทศ ประเด็นนี้เราเห็นข้อมูลจากกรมประมง และข่าวต่างๆที่มีคนไปสืบค้นเพิ่มเติม

 

เมื่อถามว่าอะไรที่ทำให้มั่นใจว่า ซีพีเอฟ ไม่เกี่ยวข้อง นายประสิทธิ์ กล่าวว่า การบริหารจัดการทั้งหมดอยู่ในฟาร์มที่เป็นระบบ มีมาตรฐานสูง เรายืนยัน ไปกับทางกรมประมงแล้ว ปลาที่มาอยู่กับเราเป็นลูกปลาซะด้วยซ้ำ ถ้าท่านที่เคยเลี้ยงปลา จะทราบว่าปลาที่เอามา 2,000 ตัว แล้วมาถึงที่สนามบิน เหลืออยู่ 600 ตัวสภาพไม่แข็งแรง ซึ่งแสดงว่าปลาโดยรวมที่เหลือคือไม่แข็งแรง ซึ่งเรื่องนี้มีเจ้าหน้าที่ของกรมกรมประมง มาตรวจเช็คที่สนามบิน พร้อมย้ำว่าเป็นเรื่องปกติ

 

ส่วนจำนวนปลาที่ตายทำไมถึงเป็นตัวเลขกลมๆ  นายประสิทธิ์ ชี้แจงว่า เป็นการประมาณการ ซึ่ง ตอนนั้นนำเข้ามาวิจัยและพัฒนา โดยมี แนวคิดตั้งต้นมาจากการประชุม พัฒนาสายพันธุ์ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ก่อนปี 2549 ซึ่งเรื่องนี้เป็นแค่แนวคิดในการทดลอง ซึ่งกระบวนการก็ยุ่งยากมาก กว่าจะนำเข้ามาได้อย่างถูกกฎหมาย แล้วเอาเข้ามาปลาไม่สมบูรณ์ เราก็ปิดโครงการ