สั่งเอาผิด บริษัททัวร์ นำ นักท่องเที่ยว เข้า ถ้ำน้ำทะลุ เตือนห้ามฝ่าฝืน
กรมอุทยานแห่งชาติ สั่งเอาผิด บริษัททัวร์ นำ นักท่องเที่ยว เข้า ถ้ำน้ำทะลุ เขตอุทยานแห่งชาติเขาสก เตือนห้ามฝ่าฝืนประกาศปิดพื้นที่เขตอุทยานฯ
7 ส.ค. 2567 จากกรณีเมื่อวานนี้ (6 ส.ค. 2567) ได้เกิดเหตุ ไกด์นำเที่ยว จำนวน 2 คน ฝ่าฝืนลักลอบ นำนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จำนวน 31 คน เข้าไปใน "ถ้ำน้ำทะลุ" หรือ "ถ้ำรอด" ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวของเขื่อนรัชชประภา ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสก จ.สุราษฎร์ธานี ที่ได้มีการประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวประจำปี ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. ถึงวันที่ 30 พ.ย. 2567
กระทั่งวานนี้ ได้เกิดเหตุ ฝนตกหนัก และต่อเนื่อง เกิด น้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมถ้ำน้ำทะลุท้ายเขื่อนรัชชประภาอย่างรวดเร็ว ในเวลาประมาณ 19.00 น. ไกด์นำเที่ยวจึงได้โทรประสานเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาสก เพื่อเข้าช่วยเหลือ นักท่องเที่ยว
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยล่าสุด ว่าได้รับรายงานจาก นายกุลบล พลวัน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาสก ว่าได้นำกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาสก เข้าให้การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จำนวน 31 คน และไกด์นำเที่ยว จำนวน 1 คน ไว้ได้และนำไปพักที่จุดช่วยเหลือบริเวณแพไกรสร แต่มีไกด์นำเที่ยว 1 คน ชื่อ นายกองยศ ยังสูญหาย เจ้าหน้าที่จึงได้เร่งติดตามตัวผู้สูญหายรายดังกล่าว
จนกระทั่งเวลา 01.00 น.ได้พบร่างของ นายกองยศ เสียชีวิตอยู่บริเวณท้าย ถ้ำน้ำทะลุ เจ้าหน้าที่จึงได้นำร่างของผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลบ้านตาขุน พร้อมทั้งแจ้งพนักงานสอบสวนเพื่อชันสูตรพลิกศพ ตามขั้นตอน
นายอรรถพล เปิดเผยต่อว่าได้สั่งการไปยัง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาสก ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเฉียบขาดกับบริษัททัวร์ฯ ซึ่งได้ฝ่าฝืนนำ นักท่องเที่ยว เข้าไปท่องเที่ยวยัง ถ้ำน้ำทะลุ ซึ่ง กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้มีประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวประจำปี บริเวณถ้ำทะลุ ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. ถึงวันที่ 30 พ.ย. ของทุกปี เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงหน้าฝน มี น้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมในพื้นที่ ถ้ำน้ำทะลุ เป็นประจำทุกปี ในอดีตเมื่อปี 2550 เคยเกิดเหตุน้ำป่าทะลักเข้าถ้ำมาแล้ว เหตุการณ์ครั้งนั้นมีนักท่องเที่ยวและไกด์เสียชีวิตจำนวน 7 ราย
ดังนั้น จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงขอฝากเตือนไปยังบริษัทนำเที่ยวทุกแห่ง ตลอดจนนักท่องเที่ยว ขอให้ตรวจสอบการปิดแหล่งท่องเที่ยวประจำปีของ อุทยานแห่งชาติ ทั่วประเทศ ตลอดจนการปิดแหล่งท่องเที่ยวในกรณีฉุกเฉิน โดยเฉพาะในช่วงนี้เป็นช่วงหน้าฝน หลายพื้นที่มีฝนตกหนักและต่อเนื่อง ทำให้เกิด น้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมแหล่งท่องเที่ยวซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกรมอุทยานแห่งชาติฯ ซึ่งหากมีการฝ่าฝืนดังกรณีตัวอย่างที่เกิดขึ้น กรมอุทยานแห่งชาติฯ จะดำเนินการตามกฎหมายกับบริษัททัวร์ที่ฝ่าฝืนอย่างเฉียบขาด ต่อไป
ภาพ-ข้อมูล : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช