ข่าว

ดำเนินคดีอาญา 13 กำลังพล สั่งซ่อม "น้องเน" ทหารเกณฑ์ จนดับ

16 ส.ค. 2567

ดำเนินคดีอาญา 13 กำลังพล สั่งซ่อม "น้องเน" ทหารเกณฑ์ค่ายนวมินทราชินี จนดับ พร้อมฟันวินัย 3 นายทหาร ขาดการกำกับดูแล

จากกรณี "น้องเน" ทหารเกณฑ์ อายุ 18 ปี ถูกครูฝึกค่ายนวมินทราชินี จ.ชลบุรี ซ่อมวินัยจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา แพทย์ลงความเห็นว่า สมองบวม ซี่โครงหักทั้ง 2 ข้าง ปอดฉีก ปอดรั่ว ไหปลาร้าหัก กระดูกสันหลังหัก ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

 

 

ล่าสุด กองทัพภาคที่ 1 ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว มีรายละเอียดว่า พลทหารที่เสียชีวิตดังกล่าว เป็นกำลังพลในสังกัด กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ เข้าประจำการ เป็นพลทหารผลัดที่ 1/67 โดยในระหว่างการฝึกทหารใหม่ในเดือน มิ.ย.67 ได้ถูกครูฝึกที่เป็นกำลังพลชั้นยศนายสิบและครูผู้ช่วยที่เป็นทหารกองประจำการ ร่วมกันลงโทษด้วยการกระทำเกินกว่าเหตุจนมีอาการบาดเจ็บ

จากนั้นทางหน่วยฝึกได้ส่งเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลค่ายนวมินทราชินี จ.ชลบุรี และส่งต่อไปรักษาตัวยัง โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กรุงเทพมหานคร อย่างต่อเนื่องจนกระทั่งเมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2567 ผู้ป่วยได้มีอาการทรุดลงและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

โดยหน่วยต้นสังกัดเมื่อทราบเหตุว่ามีการลงโทษพลทหารดังกล่าวเกินกว่าเหตุแล้ว ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนกำลังพลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยแยกเป็นการดำเนินการทางวินัยต่อผู้บังคับบัญชา ที่ขาดการกำกับดูแล จำนวน 3 นาย ตั้งแต่ระดับผู้บังคับหมวด จนถึงผู้บังคับกองพัน และการดำเนินคดีทางอาญา กับผู้ที่กระทำความผิด ซึ่งเป็นกำลังพลนายสิบและทหารกองประจำการจำนวน 13 นาย ข้อหา "ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย"

 

ดำเนินคดีอาญา 13 กำลังพล สั่งซ่อม \"น้องเน\" ทหารเกณฑ์ จนดับ

ปัจจุบันกลุ่มผู้กระทำผิด ถูกควบคุมตัวอยู่ ณ เรือนจำ มทบ.14 และอยู่ในระหว่างขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม นอกจากนี้ทางหน่วยต้นสังกัดได้มอบเงินเยียวยาให้กับครอบครัว พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกและให้การรักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บ รวมถึงการจัดพิธีทางศาสนาเมื่อกำลังพลเสียชีวิต

ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 1 ขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมแก่ครอบครัวผู้เสียหาย โดยไม่ปกป้องผู้กระทำความผิด และให้ความช่วยเหลือดูแลในการดำเนินคดีอย่างเต็มความสามารถ จึงขอชี้แจงให้สังคมได้รับทราบข้อเท็จจริง และขอเเสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าวมาในโอกาสนี้