เปิดใจ แม่พลทหาร วรปรัชญ์ ถูกครูฝึกซ่อมดับ เผย ผลเอ็กซเรย์ ซี่โครงหัก ปอดรั่ว | คมชัดลึก

จากกรณี "น้องเน" หรือ พลทหารวรปรัชญ์ ทหารเกณฑ์ อายุ 18 ปี ถูกครูฝึกค่ายนวมินทราชินี จ.ชลบุรี ซ่อมวินัยจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา แพทย์ลงความเห็นว่า สมองบวม ซี่โครงหักทั้ง 2 ข้าง ปอดฉีก ปอดรั่ว ไหปลาร้าหัก กระดูกสันหลังหัก ต่อมา กองทัพ สั่งดำเนินคดีอาญา 13 กำลังพล ฐาน "ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย" พร้อมฟันวินัย 3 นายทหาร ไม่กำกับดูแล นั้น
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• ดำเนินคดีอาญา 13 กำลังพล สั่งซ่อม "น้องเน" ทหารเกณฑ์ จนดับ
• เปิดเรื่องราวสุดหดหู่ "น้องเน" ทหารเกณฑ์ วัย 18 ปี โดนครูฝึกซ่อมจนดับ

16 ส.ค. 2567 น.ส.เนม (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี แม่ของพลทหารวรปรัชญ์ เล่าว่า เพิ่งทำพิธีเผาน้องไปเมื่อ 5 ส.ค. ที่ผ่านมา ปกติน้องเป็นเด็กดี รักครอบครัว เป็นเด็กดี ช่วยแม่เลี้ยงน้อง ขายของ ในวันที่น้องอยากเป็นทหาร น้องเดินมาขอ พอน้องได้ใบ สด.9 ก็ใช้เวลาแค่ 2 อาทิตย์ ไปสมัครเป็นพลทหารบกทันที ตอนแรกไปตรวจร่างกายรอบแรกไม่ผ่าน พอตรวจรอบ 2 วันที่ 28 ม.ค. 67 ปรากฎว่าผ่าน น้องก็ตัดสินใจว่าจะเป็นทหารแน่นอน โดยจะไปเรียนต่อข้างใน ให้จบถึง ม.6 แล้วค่อยสมัครเรียนนายสิบ
 

ต่อมา 1 พ.ค. น้องถูกส่งตัวไปค่ายนวมินทราชินี จ.ชลบุรี จนวันที่ 26 พ.ค.  เป็นวันเยี่ยมญาติ แม่กับยายก็เดินทางไปเยี่ยม และมีพิธีให้พลทหารนำพวงมาลัยกราบแม่ ตอนนั้นแม่ได้ถามลูกว่าอยู่ได้ไหม น้องก็ตอบว่าอยู่ไหว แต่ตอนนั้นน้องดูมีอาการอ่อนเพลีย เพราะการฝึก และอยู่เวร หลังพูดคุยกันสักพัก ก็นัดหมายว่า หากวันที่ค่ายอนุญาตให้ปล่อยกลับบ้าน ลูกได้ขอร้องกับแม่ พร้อมกับโอบกอดแล้วพูดว่า “แม่ต้องลางานมารับหนูนะ แม่อย่าทิ้งหนูนะ แม่มารับหนูแล้วเราไปกินชาบูกัน” ซึ่งแม่ก็ตอบตกลง โดยไม่รู้เลยว่านั่นคือประโยคสุดท้ายที่ได้คุยกับน้อง

จนกระทั่ง 22 พ.ค. แม่ได้รับโทรศัพท์จากครูฝึกว่าน้องมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือด นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลชลบุรี วันนั้นแม่รีบขี่ จยย. จากโรงโป๊ะ อ.บางละมุง ไปยังโรงพยาบาลชลบุรี ในตัวจังหวัด ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมง แต่พอไปถึงโรงพยาบาล มีการพูดคุยกับหมอ ปรากฏว่าผลเอ็กซเรย์ออกมา น้องซี่โครงหัก สะบักหัวไหล่ขวาหัก มีเลือดไหลในปอด และ สมองขาดอากาศ นานเกิน 4 นาที พอไปเอ็มอาร์ไอ ปรากฏพบกระดูกสันหลังหัก จึงเชื่อว่าน้องไม่ได้เกิดอุบัติเหตุ แต่มีผู้ทำให้น้องอยู่ในสภาพดังกล่าว

เรื่องนี้ต้องขอบคุณผู้พัน รวมถึงท่านผู้การ ของค่ายนวมินทร์ ที่ลงมาดูแลและช่วยเหลืออย่างเต็มที่ พร้อมกับตั้งคณะกรรมการสอบสวนครูฝึกรายนี้ และมีการดำเนินคดีในศาลทหาร อีกทั้งผู้พันและท่านผู้การ เข้ามาดูแลครอบครัวแม่ตั้งแต่วันแรกที่น้องเข้าโรงพยาบาล จนถึงวันสุดท้ายที่เผาร่างน้อง

น.ส.เนม กล่าวอีกว่า สาเหตุที่แม่ยอมพูดวันนี้ เพราะต้องการให้พิจารณาย้ายคดีจากศาลทหาร มาขึ้นศาลพลเรือน และขอดำเนินคดีกับผู้ที่ทำให้น้องเสียชีวิตอย่างถึงสุด โดยไม่ขอพูดคุยหรือเจรจาใดๆ ทั้งสิ้น และไม่รับคำขอโทษจากผู้ก่อเหตุ อีกอย่างน้องตั้งใจสมัครไปรับใช้ชาติ ไม่ได้ไปอยู่เพื่อให้ใครมาฆ่า และไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเกิดขึ้นกับใคร ยอมรับว่า รู้สึกแย่ รู้สึกเสียใจ ปลาเน่าตัวเดียว แต่ต้องมาตายทั้งฝูง อย่างไรก็ตามแม่จะเดินทางไปร้องขอความเป็นธรรม กับกระทรวงยุติธรรม หากคดีไม่มีความคืบหน้า
 

ด้าน นางสาวนิชนันท์ วังคะฮาต อดีตผู้ลงสมัคร สส.เขต 10 สัตหีบ จ.ชลบุรี เปิดเผยถึงกรณีนำเรื่อง พลทหารวรปรัชญ์ มาโพสต์ลงบนเฟซบุ๊ก และออกมาพูดวันนี้ 2 ประเด็นหลักๆ คือ 1.ไม่อยากให้เรื่องเงียบหาย เพราะหลังจากเกิดเรื่อง ดูเหมือนเรื่องราวจะดูเงียบหาย 2. อยากให้กองทัพออกมาชี้แจงเรื่องนี้เรื่องนี้ และให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวผู้เสียชีวิต

ซึ่งหลังจากโพสต์ข้อความดังกล่าวออกไป ปรากฏว่ามีผู้ไม่ประสงค์ออกนาม แจ้งเบาะแสพฤติกรรมของครูฝึกรายนี้ ว่าเป็นบุคคลชอบใช้ความรุนแรง ถึงขั้นถ้าทำไม่ถูกใจ ก็จะถูกตบตี แม้กระทั่งฝึกใช้อาวุธปืน ถ้าทำไม่ถูก จะโดนด้ามปืนตบ จนทุกวันนี้ทหารเกณฑ์ดังกล่าว ถึงแม้จะปลดประจำการไปแล้ว ปัจจุบันกลายเป็นคนป่วย เป็นโรคซึมเศร้า