เปิดชีวิต หญิงชรา เคยรวยหมื่นล้าน พลิกเป็นศูนย์ ค่าเช่าห้องยังค้างจ่าย
หญิงชรา อ้างเคยรวยหมื่นล้าน เป็นถึงเจ้าของสายการบิน ถูกมิจฉาชีพหลอกโอนเงิน หมดตัวจนไม่มีที่อยู่ ลูกหันหลังให้ ไร้คนเหลียวแล
จากกรณีสื่อโซเชียลได้มีการลงเรื่องราวหญิงชราวัย 69 ปี พักอาศัยอยู่ห้องเช่าย่านคลองสามเพียงลำพังโดยไม่มีลูกหลานหรือญาติพี่น้องดูแล หน่ำซ้ำยังถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจหลอกให้โอนเงินทุกวัน จนกระทั่งค้างค่าเช่าห้องหลายเดือน ต้องระหกระเหินเร่ร่อนสร้างความหดหู่ใจแก่สังคมออนไลน์เป็นอย่างมาก
ล่าสุดทาง อบต.คลองสาม โดย รศ.วิระศักดิ์ ฮาดดา นายก อบต.คลองสาม พร้อมด้วย กองกองสวัสดิการสังคม และ ความมั่นคงของมนุษย์ได้ลงพื้นที่ หมู่ 7 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อหาทางช่วยเหลือหญิงชรารายดังกล่าวจากการตรวจสอบพบว่าหญิงชรารายดังกล่าวชื่อว่านางณภัทร ธีมาณิชกุล อายุ 69 ปี ได้เช่าอาศัยอยู่ที่บ้านเช่าดังกล่าวห้องเลขที่ 24 ซึ่งหน้าห้องมีรถจักรยานยนต์จอดอยู่ 1 คันภายในห้องมีของใช้ว่างกองเอาไว้เป็นจำนวนมาก
จากการสอบถามนางณภัทร ธีมาณิชกุล อายุ 69 ปี อ้างว่าตนเคยรวยมีเงินเป็นหมื่นล้านมีธุรกิจสายการบินมีที่ดินที่ติดทะเลทั้งประจวบและบางแสน จนกระทั่งตอนนี้ไม่เหลือแม้แต่บาทเดียว
อีกทั้งลูกทั้ง 3 คนก็ไม่มาดูแล โดยลูกคนโตที่อยู่ต่างประเทศเขาก็บอกว่าเขาต้องดูแลครอบครัว ส่วนคนเล็กพอไปหาเมียเขาก็ไม่ให้เจอ ทุกวันนี้เสียใจมากแต่ก็ไม่เป็นไร ในส่วนที่ตนโดนหลอกให้โอนเงินนับแสนนั้น ตนก็จำไม่ได้ว่าโอนไปเท่าไหร่แล้ว แต่ทำมานานนับปีแล้วจนบัดนี้ก็ยังไม่มีแววว่าจะได้เงิน
พอตนสอบถามไปเขาก็บอกว่าจะได้แล้วแต่ก็ไม่เห็นได้สักทีจนกระทั่งตนไม่มีเงินส่งเขาก็เงียบหายไป ซึ่งชีวิตเราไม่แน่นอนสูงสุดได้ก็ต่ำสุดได้ตนปลงแล้วทุกวันนี้เพียงเข้าวัดนั่งสวดมนต์ทำสมาธิก็พอแล้ว
ในขณะที่ทางด้านนายวันดี ไต่ตามบุญ เพื่อนข้างห้องเช่าที่ติดกับป้าณภัทรเล่าให้ฟังว่านางณภัทรได้ย้ายมาอยู่ที่นี้กว่า 2 เดือนแล้ว โดย ป้าณภัทร เล่าทั้งน้ำตาให้ตนฟังว่าถูกหลอกจนหมดตัวแถมลูกก็ติดต่อไม่ได้อีก ซึ่งบ้างวันป้าณภัทรก็ไม่มีข้าวกินตนก็จะแบ่งข้าวและน้ำให้เป็นประจำ รู้สึกสงสารป้าแก่มากอยู่ตัวคนเดียวหวั่นหากมีอะไรเกิดขึ้นใครจะมาช่วยเหลือแก่ก็ไม่รู้
ด้านนางบุญมา กลับเจริญ เจ้าของห้องเช่าเดิมที่ให้ป้าณภัทร เช่าอยู่เล่าให้ฟังว่าเมื่อ 4 เดือนที่ผ่านมามีผู้ชายนำนางณภัทร มาทิ้งไว้ที่บ้านเช่าของตนโอยสอบถามถึงค่าเช่าเท่าไหร่แล้วก็ขนของมาอยู่ทันที ซึ่งหลังจากผ่านไปหนึ่งเดือนนางณภัทรก็ไม่มีค่าเช่าให้ตนก็รู้สึกสงสารจึงไม่ว่าอะไรจนกระทั่งผ่านไป 2 เดือนก็ไม่มีเงินมาจ่ายค่าเช่าอีก จึงได้สอบถามนางณภัทรว่าทำงานอะไรและมีญาติพี่น้องไหม เขาก็ตอบว่าไม่มีงานทำมีเพียงลูกที่อยู่ต่างประเทศ 1 คนและอีก 2 คนไม่รู้อยู่ไหน ซึ่งเขาเคยบ่นกับตนว่าเครียดอยากจะผูกคอตาย ตนก็คอยแต่ให้กำลังใจเขาไปเท่านั้น
ทั้งนี้ในส่วนเรื่องที่นางณภัทรถูกมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินเป็นแสนนั้นตนก็ไม่ทราบแต่จากการสอบถามนางณภัทรก็บอกว่าเล่นโปร ตนก็ไม่รู้ว่าอะไร แต่เขาบอกว่าไม่ใช่มิจฉาชีพ แต่ก็ไม่เคยเห็นเขาได้เงินจากตรงนี้นะ ดังนั้นจึงฝากวอนลูกหลานให้ช่วยมารับเขาไปดูแลด้วยเนื่องจากเขาแก่มากแล้ว และสุขภาพไม่ดีมากตอนนี้
ทางด้าน รศ.วิระศักดิ์ ฮาดดา นายก อบต.คลองสาม กล่าวว่าหลัวทราบข่าวว่าทางป้าณภัทรนั้นถูกมิจฉาชีพที่อ้างตัวเป็นตำรวจหลอกเงินเป็นแสนจนกระทั่งไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าห้องแล้วไม่มีที่อยู่นั้นทาง อบต.คลองสาม ได้มีการสั่งการให้กองสวัสดิการและมั่นคงของมนุษย์หาทางช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว และประสานเจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดปทุมธานี เพื่อขอความช่วยเหลือ โดยจะส่งเรื่องเข้ารับการคุ้มครองที่สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งหญิงให้แก่ป้าณภัทร แต่ก็ต้องอยู่ในความสมัครใจของทางป้าณภัทรว่าจะไปอยู่หรือไม่