กรณีเกิดเหตุดินสไลด์จากเขานาคเกิด ลงมาทับบ้านเรือนประชาชนและวิลล่าหรู ในซอยปฏัก 2,4 และพื้นที่ตำบลกะรน อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต จนทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 13 ราย และบาดเจ็บ 19 ราย
ล่าสุดพบร่องน้ำธรรมชาติจำนวน 2 ร่อง บริเวณด้านหลังองค์พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี หรือ พระใหญ่ ซึ่งประดิษฐาน ณ พุทธอุทยานยอดเขานาคเกิด ต.กะรน อ.เมือง ถูกการก่อสร้างและปรับพื้นที่ ปิดกั้นทางน้ำทางธรรมชาติ ขณะเดียวกัน รองแม่ทัพภาคที่ 4 เผยแน่ชัดแล้วว่า สาเหตุมาจากการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้ ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- ชัดแล้ว สาเหตุ ดินสไลด์ เขานาคเกิด รุกธรรมชาติ ไม่พบหลักการปันน้ำ
- ประธานมูลนิธิฯ เผย มีก่อสร้างใต้ฐานพระใหญ่จริง แต่ขออนุญาตถูกต้อง
- ชาวบ้าน ยื่นซ้ำรอบ 11 ปี จี้สอบ สร้างพระใหญ่ หลัง ดินสไลด์ภูเก็ต ทำถูกหรือไม่
27 ส.ค. 2567 เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา นายบรรณรักษ์ เสริมทอง รองอธิบดีกรมป่าไม้ เดินทางเข้าตรวจสอบพื้นที่มีการสร้างรุกล้ำ นอกเหนือจากการขออนุญาตของสำนักพุทธ และได้ก่อสร้างรุกล้ำ บริเวณเทือกเขานาคเกิด ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต เบื้องต้นพบว่าบุกรุก เกินมา 5 ไร่ 19 ตารางวา ความเสียหายเบื้องต้นเป็นเงิน 344,462.70 บาท จากนี้ทางกรมป่าไม้จะเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.กะรน จังหวัดภูเก็ต เพื่อดำเนินคดี
นายบรรณรักษ์ กล่าวว่า กรมป่าไม้ได้รับมอบหมายจากท่านอธิบดีฯ ให้ลงมาตรวจสอบกรณีดังกล่าว ยืนยันว่ากรมป่าไม้ไม่ได้นิ่งนอนใจ ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบเบื้องต้น พร้อมตำรวจภูธรภาค 8 และสำนักงานพุทธศาสนา พื้นที่ดังกล่าวทำโครงการร่วมกันมา ขอเปลี่ยนแปลงใช้ประโยชน์ 15 ไร่ และนอกเหนือจาก 15 ไร่ ทางกรมป่าไม้พิจารณาเองแล้วให้สำนักพุทธฯ จัดการ
กรมป่าไม้ตรวจพบว่า มีการก่อสร้างเกินจากที่ขออนุญาต 5 ไร่ 6 รายการ จึงได้ทำบันทึกไว้ และไปแจ้งความต่อสภ.กะรน เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด พร้อมทั้งให้คณะกรรมการจากสำนักพุทธฯ นำชี้ว่า 15 ไร่ มีตรงไหนบ้างและนอกเหนือจากตรงนั้น เราจะดำเนินคดีทั้งหมด เพราะเรายื่นหนังสือให้ท่านตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2566 ว่าห้ามดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น
กรณีนี้สำนักพุทธฯ แจ้งว่า มูลนิธิมิ่งมงคลนาคคีรี เป็นผู้ทำ เพราะฉะนั้นการกระทำโดยไม่คำนึงถึงโครงสร้างทางวิศวกรรมต่างๆ ไม่มีความรู้ตรงนี้ และทำช่วงฝนตกหนัก เลยเกิดเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น อันนี้คือสันนิษฐานเบื้องต้น จากที่เห็นตามภาพข่าวและของจริง
นายบรรณรักษ์ กล่าวอีกว่า ช่วงแรกปี 45-49 เป็นการทำงานร่วมกันกับกรมป่าไม้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้พระสงฆ์มาดูแลป่า เป็นแหล่งรวมจิตใจของมนุษย์ รักษาป่าให้ดีขึ้น แต่การขอต่ออนุญาตแต่ละครั้งต่อ 3 ครั้ง ก็อยากจะทำให้พระสงฆ์ดูแลป่าจริง แต่การสร้างป่าก็มีกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้องมากมาย เป็นสิ่งที่เห็นอยู่แล้ว แต่ยังไม่สามารถตรวจสอบว่าทำไมดำเนินการได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง