กทม. เตรียมพร้อม คันกั้นน้ำ 88 กม. รับมือ น้ำเหนือ - น้ำหนุนสูง 30 ส.ค. - 5 ก.ย. นี้
กรุงเทพฯ เตรียมพร้อมรับมือ มวลน้ำเหนือ น้ำทะเลหนุนสูง 30 ส.ค. - 5 ก.ย. นี้ เสริมคันกั้นน้ำ ริมเจ้าพระยา สูงกว่าเดิม ถอดบทเรียน น้ำท่วมปี 54
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศ เฝ้าระวัง น้ำทะเลหนุนสูง ในช่วงวันที่ 30 สิงหาคม - 5 กันยายน 2567 เนื่องจากอิทธิพลของน้ำทะเลหนุนสูง และคาดว่าจะมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำแม่กลอง แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำบางปะกง
เสี่ยง น้ำท่วม บริเวณชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว บริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) ในพื้นที่ 6 จังหวัด ดังนี้
- จ.สมุทรสงคราม
- จ.สมุทรสาคร
- จ.นครปฐม
- จ.นนทบุรี
- กรุงเทพมหานคร
- จ.สมุทรปราการ
โดยคาดว่าระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าฯ จ.สมุทรปราการ จะมีความสูงประมาณ 1.70 - 2.00 เมตร
กรุงเทพฯ เตรียมรับมือ น้ำเหนือ - น้ำทะเลหนุน
กรุงเทพฯ เตรียมความพร้อมในการรับมือน้ำทะเลหนุนสูง พร้อมกับมวลน้ำที่จะไหลลงมาในวันที่ 2 กันยายน ด้วยการเสริมความแข็งแกร่งให้กับแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ ด้วยการเสริมแนวคันกั้นน้ำถาวรให้สูงขึ้น และเรียงกระสอบทรายเป็นเขื่อนชั่วคราวในบริเวณที่จำเป็น เพื่อสร้างความมั่นใจว่าแนวป้องกันน้ำท่วมมีความแข็งแรงและสามารถป้องกันน้ำท่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คันกั้นน้ำริมเจ้าพระยายาว 80 กม. เสริมสูงกว่าน้ำท่วมปี 54 พร้อมระดมสรรพกำลังเตรียมรับมือสถานการณ์น้ำเหนือหลาก
กทม. ได้เตรียมพร้อมการบริหารจัดการน้ำและระบบป้องกันน้ำท่วมต่าง ๆ และตรวจสอบความแข็งแรงและจุดรั่วซึมของแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ ความยาวประมาณ 80 กิโลเมตร แนวป้องกันของเอกชนและหน่วยงานราชการ 3.65 กิโลเมตร และแนวฟันหลอหรือพื้นที่ว่าง คันกั้นน้ำที่ชำรุด 4.35 กิโลเมตร
ซึ่งหลังจากปี 54 เป็นต้นมา ได้เสริมแนวคันกั้นน้ำถาวรริมเจ้าพระยาสูงขึ้นตลอดแนวที่ระดับ 2.80-3.50 ม.รทก. และเรียงกระสอบทรายเป็นเขื่อนชั่วคราวในบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) และบริเวณแนวป้องกันที่มีระดับต่ำตามจุดต่าง ๆ
รวมทั้งตรวจสอบความพร้อมของสถานีสูบน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา จำนวน 96 สถานี โดยรวมทั้งหมด ประมาณ 200 สถานี และบ่อสูบน้ำตามแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสองฝั่งในช่วงน้ำทะเลขึ้น
พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังประจำจุด เครื่องสูบน้ำสำรอง เรือผลักดันน้ำ วัสดุอุปกรณ์ กระสอบทราย ตลอดจนเตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการเร่งด่วนเคลื่อนที่ (BEST) และอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้พร้อมปฏิบัติการและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ทันทีเมื่อเกิดเหตุน้ำท่วม ตลอด 24 ชั่วโมง