"สมศักดิ์" วอนเห็นใจคนสุโขทัย ซัดกลุ่มต้านสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น ใจแคบ
"สมศักดิ์" เผย ชาวสุโขทัย-แพร่ ถูกน้ำท่มทุกปี ย้ายหนีหมดแล้ว ซัดกลุ่มต้านสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น ใจแคบ เผาหุ่นทุกครั้งที่ออกมา ควรหันมาคุยกันบ้าง
กรณีชาวสะเอียบต้านการก่อสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น พร้อมประกาศจุดยืนคัดค้าน "ขอตายในพื้นที่"
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวง สาธารณสุข เปิดเผยว่า กลุ่มที่ต่อต้านการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น แล้วมาเผาหุ่น ทุกครั้งที่มีกระแส "มันใจแคบเกินไป ถ้าใจแคบแบบนี้ ก็แก้ปัญหาไม่ได้" ควรให้เอาหน่วยงานกลางมาช่วยดู การที่ใครพูดอะไรไม่ได้เลย คนจังหวัดแพร่ คนจังหวัดสุโขทัย เขาได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ตนอยู่สุโขทัยถูกล้อเลียนมาตลอด เรื่องเขื่อนเรียงหิน ครั้งนี้ตนก็ขอเหอะเขื่อนเรียงหิน ความยาว 9 พันเมตรในพื้นที่ 3 อำเภอ ที่ถูกกัดเซาะ ก็ต้องสร้างเขื่อนเรียงหินเพื่อกำแพง
"ทุกครั้งที่จะมีการพูดถึงเรื่องเขื่อนแก่งเสือเต้น ก็จะมีการเผาหุ่น ไม่รู้ว่าเผาจนผมไหม้กี่ครั้ง ใจแคบจริงๆ พูดคุยกันบ้างสิ"
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า พอพูดถึงเรื่องเขื่อนใหญ่ลุ่มน้ำยม เราไม่ควรจะมาวิพากษ์วิจารณ์ หน่วยงานของภาครัฐ แต่ควรหาผู้รู้มาตัดสิน ซึ่งตนได้บอกให้ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) หาหน่วยงานกลาง เช่น ธนาคารโลก เพื่อวิเคาระห์ต้องดูว่า ต้นน้ำมีความเสียหาย เรื่องที่อยู่ที่กิน เช่น ในพื้นที่สะเอียบ จังหวัดแพร่ ก็จะมีความรุนแรง เพราะเขารักถิ่นฐาน และมีความรู้สึกว่าได้รับผลกระทบเสียหาย แต่ระหว่างลำน้ำยม คนที่เสียหายที่สุด คือ ภาครัฐ เพราะต้องออกมาชดเชย รวมถึงประชาชนที่เห็นใจคนถูกน้ำท่วมก็เข้าไปช่วยเหลือ ในเรื่องของอาหาร โดยเฉพาะจังหวัดสุโขทัย ได้รับการดูแลจากภาคประชาชนและจากภาครัฐเป็นจำนวนมาก จึงต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เข้าไปช่วยเหลื
ทั้งนี้ตามหลักการ เขื่อนแก่งเสือเต้นมีความเหมาะสมในการผลิตไฟฟ้าเพราะมีความสูงถึง 60 กว่าเมตร ซึ่งเมื่อน้ำตกลงมา จะมีแรง ที่จะสามารถผลิตกระไฟฟ้าได้มาก เมื่อนำไปขาย ก็สามารถแบ่งเงินให้คนในพื้นที่ได้ โดยให้คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ซึ่งก็อาจจะเป็นแนวคิดใหม่ แม้จะได้รับความเสียหายแต่ก็จะได้รับการชดเชยจากรายได้ตลอดชีวิต ดังนั้น ควรหันหน้ามาคุยกัน
แต่เรื่องนี้ตนจะไม่ได้คุยเอง เพราะไม่ได้มีหน้าที่โดยตรง แต่พูดในฐานะคนที่ได้รับผลกระทบ เพราะคนสุโขทัยที่ตนรู้จัก ในอำเภอศรีสำโรงและอำเภอเมือง ย้ายไปอยู่ที่อื่นกันหมดแล้ว เพราะ "สู้น้ำไม่ไหว" เหลือแต่ตน ที่ยังอยู่ เพราะตนเป็นนักการเมืองที่เกิดที่นั่น ย้ายไปไหนไม่ได้ คนอื่นย้ายไปเจริญเติบโต คนที่ได้เรียนหนังสือ มีหลักมีฐานแล้ว ก็ไม่มีใครอยู่จังหวัดสุโขทัย เพราะหนีน้ำท่วมสู้ไม่ไหว