6 ก.ย. 2567 นางรัตนพร (สงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี พร้อมด้วย นายทรงภพ (สงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี และ น.ส.ประณยา (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี สามพ่อแม่ลูก เดินทางเข้าร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อขอความเป็นธรรม หลังจากธนาคารแห่งหนึ่ง ทำงานผิดพลาด ไม่ทำตามระเบียบ จนสร้างความเดือดร้อนแต่ธนาคารกลับปัดความรับผิดชอบ
น.ส.ประณยา เล่าว่า เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2548 ครอบครัวไปกู้เงินธนาคาร จำนวนเงิน 550,000 บาท ใช้ชื่อแม่เป็นคนกู้เพื่อเอามาสร้างบ้าน ตอนนั้นธนาคารแจ้งว่า ปีแรกจะต้องจ่ายเดือนละ 3,100 บาท ปีที่ 2 จ่ายเดือนละ 3,400 บาท และปีที่ 3 เป็นต้นไปจะต้องจ่ายเดือนละ 3,800 บาท ทางครอบครัวเกรงว่าจะผิดนัดธนาคาร จึงให้ธนาคารหักเงินในบัญชีธนาคารของแม่ทุกเดือน
หลังจากนั้นตนซึ่งเป็นลูกสาว ได้โอนเงินเข้าบัญชีแม่เป็นประจำเพื่อให้มีเงินพอให้ธนาคารหักได้ กระทั่งเมื่อประมาณเดือน พ.ค.65 ตนมารู้ว่าธนาคารหักเงินผิด คือหักเดือนละ 3,100 บาท มาโดยตลอด ไม่ยอมปรับขึ้นตามสัญญาคือปีแรก 3,100 ปีที่ 2 หัก 3,400 และปีที่ 3 หัก 3,800 บาท
จากนั้นได้เข้าไปทักท้วงธนาคารฯ แต่ปรากฎว่าธนาคารให้จ่ายค่าปรับดอกเบี้ยที่ล่าช้า จำนวนเงิน 95,000 บาท ทางเราก็จ่ายให้จนครบ แต่ยังไม่จบ เพราะธนาคารยังไม่ปรับสัญญาให้ถูกต้อง ต้องไปดำเนินเรื่องตั้งแต่ ผู้จัดการเขต และธนาคารแห่งประเทศไทย จนผู้จัดการภาค มาเจรจาที่บ้าน พร้อมกับลงหนังสือไว้เป็นหลักฐานว่าธนาคารผิดพลาดเอง แต่จนถึงขณะนี้ผ่านไป 2 ปี 4 เดือน ยังไม่มีการแก้ไขสัญญาให้ถูกต้อง
นอกจากนี้ยังพบว่าธนาคารได้หักเงินไม่ถูกต้อง คือบางเดือนหักถึง 3 ครั้ง บางเดือนหัก 2 ครั้ง แต่ยังไม่ได้รับการชี้แจง ตอนนี้สัญญาเหลืออีกเพียง 13 เดือน ก็จะครบสัญญาการกู้เงิน คิดเป็นเงิน 49,400 บาท (3,800x13) แต่ธนาคารแจ้งมาว่า ถ้าจะปิดบัญชีจะต้องจ่าย 225,000 บาท อยากรู้ว่าธนาคารเอาอะไรมาคิดออกมาเป็นตัวเลขนี้
นายทางภพ อายุ 56 ปี กล่าวว่า บอกว่าพวกตนวิ่งเต้นมานานกว่า 2 ปี แต่ธนาคารไม่ยอมแก้ไขหรือชี้แจง เมื่อขอเอกสารธนาคารฯ กลับอ้างว่า "เป็นความลับของธนาคาร" ตอนนี้อยากให้ธนาคารออกมาชี้แจงและให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง