เปิดใจ "ป้าวันทนา" หลังศาลอุทธรณ์ พิพากษายกฟ้อง คดีตะโกนไล่ พล.อ.ประยุทธ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจ "ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน" ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 7 ยกฟ้อง "ป้าวันทนา" หญิงชาวราชบุรี วัย 62 ปี คดีตะโกนไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ชี้ การกระทำของ ตร.ลิดรอนสิทธิเสรีภาพ ในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญของประชาชน ประกอบกับปฏิบัติงาน โดยไม่ได้สัดส่วนกับที่ป้าวันทนา เป็นหญิงสูงอายุ จะต้องเพิ่มการระมัดระวัง และปฏิบัติให้เหมาะสมกับสถานภาพของจำเลย ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามา ศาลอุทธรณ์ภาค 7 ไม่เห็นพ้องด้วย พิพากษายกฟ้อง
 

ป้าวันทนา กล่าวว่า รู้สึกโล่งใจ ที่การต่อสู้ตลอดระยะเวลา 1 ปี 5 เดือน ได้สิ้นสุดลงแล้ว และ ดีใจที่ศาลอุทธรณ์ให้ความยุติธรรม ด้วยการยกฟ้องทั้ง 3 ข้อหา ซึ่งทั้งหมดเป็นการแสดงให้ชาวบ้านโป่ง และทุกคนได้เห็นว่าการกระทำของตนในวันนั้น ไม่ได้เป็นการทำลายบรรยากาศของบ้านเมือง หากแต่เป็นสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และสามารถร้องเรียนถึงความเดือดร้อนของประชาชน ต่อนายกรัฐมนตรี ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด

อย่างไรก็ตาม ตนไม่ถือโทษโกธรเคืองประชาชนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ตน รวมไปถึงตัดสินใจจะไม่ฟ้องกลับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมตัวตนในวันเกิดเหตุ แต่อยากให้เรื่องของตนเป็นบทเรียน ให้กับทางเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะตำรวจในการปฏิบัติต่อประชาชน และเป็นบรรทัดฐานให้กับสังคม

ซึ่งหลังจากนี้ ตนตั้งใจจะช่วยเหลือเพื่อน ๆ น้องๆ โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนที่ถูกจับกุม จากกรณีการชุมนุมต่อต้านรัฐบาล และคดี ม.112 ในด้านของความเป็นอยู่ในระหว่างถูกควบคุมตัวในเรือนจำ
 

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าอยากฝากถึงรัฐบาลชุมใหม่ ภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ซึ่ง ป้าวันทนา กล่าวว่า อยากให้ช่วยดูแลแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้กับคนระดับล่างโดยเร็ว ซึ่งตนเชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทยจะไม่ทอดทิ้งประชาชน ดังจะเห็นได้จากโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท อันเป็นนโยบายหลัก ซึ่งตนมีสิทธิ์ได้รับตามเกณฑ์ ตนเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง ทั้งนี้ ในส่วนของตน ตั้งใจว่าจะนำไปปรับปรุงร้านค้าใหม่ หลังจากที่ต้องปิดชั่วคราว เพื่อสู้เรียกร้องความยุติธรรม