อัปเดตล่าสุด เงินดิจิทัล 10000 หมดเขต "กลุ่มสมาร์ทโฟน" ต้องทำอย่างไร?
กลุ่มสมาร์ทโฟนเตรียมตัว เงินดิจิทัล 10000 บาท หมดเขตลงทะเบียน 15 กันยายนนี้ เช็กสิทธิ ขั้นตอน เตรียมตัวให้พร้อม ต้องทำไงบ้าง ไม่พลาดเงินดิจิทัลวอลเล็ต ล่าสุด
อัปเดตคืบหน้า เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท กลุ่มลงทะเบียนผ่านสมาร์ทโฟน ดีเดย์ยืนยันตัวตนผ่านแอปทางรัฐ 15 ก.ย. 2567 จะปิดลงทะเบียนอย่างเป็นทางการ สำหรับขั้นตอนการเช็กสิทธิสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนสามารถดำเนินการ ดังนี้
เช็กสิทธิ ลงทะเบียนเงินดิจิทัล ล่าสุด
- เข้าแอปทางรัฐ เลือกเมนู "ตรวจสอบสถานะ"
- หากยังไม่ลงทะเบียนให้กรอกข้อมูล
- กรอกเบอร์โทรศัพท์ และรอรับรหัส OTP
- ยืนยันตัวตนด้วย OTP
- กดปุ่ม อนุญาต ให้แอปเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
ขั้นตอนตรวจสอบสถานะ
- ขั้นตอนที่ 3 คือ อยู่ระหว่างการตรวจสอบสิทธิ
- ขั้นตอนที่ 4 คือ ไม่ได้รับสิทธิ
- ขั้นตอนที่ 5 คือ ได้รับสิทธิตามโครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท
อัปเดตไทม์ไลน์ เงินดิจิทัล / ดิจิตอล ล่าสุด ได้วันไหน?
- 20 กันยายน 2567 เริ่มโอนเงิน "กลุ่มเปราะบาง"
- กลุ่มสมาร์ทโฟน ปิดลงทะเบียนวันที่ 15 กันยายน 2567
- เปิดลงทะเบียน "กลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน" วันที่ 16 ก.ย. 2024 ไปจนถึงวันที่ 15 ต.ค. 2567
- ประกาศผลการรับสิทธิวันที่ 22 ก.ย. 67 เป็นต้นไป
สรุปข่าว เงินดิจิทัลวอลเล็ต ล่าสุด 11 ก.ย. 67 ตกลงใช้ยังไง?
- น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เผยอาจให้เป็นเงินสด และเงินดิจิทัล (แบ่งแยกประเภทกัน) รอเคาะนโยบายอีกครั้ง
- อาจแบ่งเฟสจ่าย (รอบละ 5,000 บาท)
- วิธีใช้จ่ายรอสรุปอีกครั้ง
รีวิวแอปทางรัฐ เช็กสิทธิ และขั้นตอนก่อนปิดลงทะเบียนเงินดิจิทัล
สำหรับนโยบาย Digital Wallet รับเงิน 10,000 บาท เป็นโครงการของรัฐบาลที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือ/กระตุ้นเศรษฐกิจสำหรับประชาชนสัญชาติไทย ที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป และเป็นผู้มีรายได้เกิน 840,000 บาท และบัญชีเงินฝากไม่เกิน 500,000 บาท
ทั้งนี้การลงทะเบียนเงินดิจิทัลสำหรับกลุ่มผู้ใช้สมาร์ทโฟนให้ดำเนินการผ่าน "แอปทางรัฐ" ถือเป็นช่องทางหลักที่รัฐฯ ใช้เป็นฐานข้อมูลในการเช็กสิทธิ ตรวจสอบสถานะ รวมถึงแจ้งผลการลงทะเบียน รวมถึงแจ้งข่าวสารโครงการเงินช่วยเหลือต่างๆ อาทิ เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด , เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ , เบี้ยคนพิการ ฯลฯ
ข้อดี
ฐานข้อมูลของคุณจะถูกใส่ไว้ในระบบเพื่อตรวจสอบ โดยเฉพาะการลงทะเบียนมาตรการเยียวยาต่างๆจะดำเนินการได้รวดเร็ว และไม่ต้องสมัครใหม่ ซึ่งคาดว่าโครงการต่างๆในอนาคตจะใช้แอปพลิเคชั่นทางรัฐเป็นตัวกลางระหว่างรัฐ และประชาชน เพื่ออำนวยความสะดวก และลดขั้นตอนซ้ำซ้อนอย่างมีประสิทธิภาพ