ข่าว

เพลิงไหม้โบสถ์วัดศรีรัตนาราม หวิดวอด คาดหลังทำวัตร ดับเทียนไม่สนิท

16 ก.ย. 2567

ระดมเจ้าหน้าที่ดับวุ่น เพลิงไหม้โบสถ์วัดศรีรัตนาราม จ.พิษณุโลก อายุกว่า 50 ปี หวิดวอด พระคาดหลังทำวัตร ดับเทียนไม่สนิท

16 ก.ย. 2567 เมื่อเวลา 16.30 น. ตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ และรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลท่าทอง เข้าตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้ ภายในวัดศรีรัตนาราม(จูงนาง) พื้นที่ ม.5 ต.ท่าทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก

ที่เกิดเหตุอยู่ภายในอุโบสถวัดศรีรัตนาราม มีควันสีดำพวยพุ่งออกมาจากด้านใน เจ้าหน้าที่เร่งฉีดน้ำสกัด พร้อมเปิดประตูด้านหลัง และหน้าต่าง ใช้พัดลมระบายกลุ่มควันออก และขนย้ายพระพุทธรูป หนังสือสวดมนต์ และอุปกรณ์ต่างๆ ออกมาด้านนอก

ใช้เวลาประมาณ 20 นาที เพลิงจึงสงบ เบื้องต้นพบว่าบริเวณโต๊ะหมู่บูชาด้านหน้าองค์พระประธาน พรม และแท่นรองโต๊ะหมู่บูชา อาสนะสงฆ์ ไฟไหม้ได้รับความเสียหาย
 

เพลิงไหม้โบสถ์วัดศรีรัตนาราม หวิดวอด คาดหลังทำวัตร ดับเทียนไม่สนิท

เพลิงไหม้โบสถ์วัดศรีรัตนาราม หวิดวอด คาดหลังทำวัตร ดับเทียนไม่สนิท

affaliate-1

นายศตรายุ กล้าหาญ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.ท่าทอง กล่าวว่า ขณะภายในวัดกำลังมีพิธีฌาปนกิจศพ มีคนวิ่งไปตามว่ามีควันสีดำออกมาจากภายในอุโบสถ ตนจึงรีบวิ่งมาดู ก็พบควันจำนวนมากลอยออกมา ก่อนประสานคณะกรรมการวัดมาเปิด และเรียกรถดำเพลิงมาระงับเหตุ

ด้าน นายบุญเกิด บัวคำ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.ท่าทอง กล่าวว่า โบสถ์นี้ไว้สำหรับบรรพชาอุปสมบท สร้างแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ.2516 ด้านในประดิษฐานหลวงพ่อหน้าทอง ที่ย้ายมาจากวัดหน้าทองวัดเก่า ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเป็นวัดศรีรัตนาราม(วัดจูงนาง)ในปัจจุบัน คาดสาเหตุน่าจะเกิดจากเทียนพรรษาที่จุดไว้ด้านใน
 

เพลิงไหม้โบสถ์วัดศรีรัตนาราม หวิดวอด คาดหลังทำวัตร ดับเทียนไม่สนิท

พระครูสังฆรักษ์ บุญเลี่ยม โกวิโท รองเจ้าอาวาสวัดศรีรัตนาราม(จูงนาง) กล่าวว่า ปกติ 16.30 น. พระภิกษุสงฆ์จะต้องมาทำวัดเย็น แต่วันนี้ติดงานฌาปนกิจเลยไม่ได้มา คาดว่าเมื่อวานที่ทำวัตรกันอาจจะดับเทียนไม่สนิท หรือไส้เทียนอาจจะติดขึ้นมา จึงให้เกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้