ข่าว

ม.พะเยา น้ำท่วมหนักครั้งแรกในรอบ 10 ปี นายก อบจ. ระดมกำลังเร่งช่วย นศ.

ม.พะเยา น้ำท่วมหนักครั้งแรกในรอบ 10 ปี นายก อบจ. ระดมกำลังเร่งช่วย นศ.

17 ก.ย. 2567

ม.พะเยา พบน้ำท่วมหนักเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ขณะที่ นายก อบจ. ระดมกำลังเร่งช่วยนักศึกษา คาดสถานการณ์คลี่คลายในวันนี้

น้ำท่วม ม.พะเยา

17 ก.ย. 2567 จากกรณีน้ำป่าไหลหลาก และพัดถล่มในพื้นที่ ต.แม่กา อ.เมือง จ.พะเยา โดยน้ำป่า ได้ไหลทะลัก ส่งผลให้น้ำท่วมหมู่บ้าน ชุมชน บ้านเรือน หอพัก และถนน ในพื้นที่บ้านแม่กา-ห้วยเคียน และบริเวณ หน้ามหาวิทยาลัยพะเยา ฝั่งตะวันตก ทำให้รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ของนักศึกษาได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก

 

นายธวัช สุทธวงค์ นายก อบจ.พะเยา เปิดเผยว่า เหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ชุมชน บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยพะเยานั้น เกิดขึ้นในช่วงระหว่าง 04.00  - 05.00 น. โดยมวลน้ำได้ไหลเข้าท่วมอย่างรุนแรง ทำให้ทรัพย์สินของชาวบ้าน รวมทั้งทรัพย์สินของนักศึกษา อาทิ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก เนื่องจากรถที่ได้รับความเสียหายจอดอยู่บริเวณนอกอาคาร

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ถือว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ที่เกิดน้ำท่วมหนักในบริเวณนี้ เพราะที่ผ่านมาบริเวณพื้นที่แม่ จะเป็นพื้นที่สูง และไม่เคยถูกน้ำท่วมแบบนี้มาก่อน ซึ่งชุมชนที่ถูกน้ำท่วมส่วนใหญ่ จะเป็นหอพักของนักศึกษา

 

ทั้งนี้ ในเบื้องต้นทราบว่า ระดับน้ำที่ท่วมนั้น ได้เริ่มลดระดับลงแล้ว โดยทาง อบจ.พะเยา ได้จัดเตรียมเครื่องมือหนัก ในการเข้าคลี่คลายสถานการณ์แล้ว ปัญหาเร่งด่วนในขณะนี้คือ ต้องรีบจัดตั้งโรงครัว เพื่อทำการแจกจ่ายอาหารให้กับบรรดานักศึกษา และผู้ประสบภัยทั้งหมดเป็นอันแรก

 

ปัญหาน้ำป่าที่ไหลเข้าท่วมในช่วงเช้า คาดว่าภายในวันนี้ สถานการณ์ก็จะคลี่คลายลง โดยตนได้สั่งการให้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ อบจ. พร้อมกับประสานงานไปยังป้องกันภัยจังหวัดพะเยา และเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทหาร ให้เร่งเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับน้ำป่าจำนวนมาก ที่ไหลเข้าท่วมพื้นที่ชุมชนบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยพะยา ในครั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า น้ำป่าไหลหลากมาจากลำน้ำห้วยเกี๊ยง หรือลำน้ำแม่กา โดยไหลมาบรรจบกับลำน้ำหม้อแกงทอง และไหลมาตามลำน้ำห้วยเคียง ซึ่งปริมาณน้ำที่มีจำนวนมาก ประกอบกับมีท่อนไม้ กิ่งไม้ และดินโคลนไหลมาด้วย ทำให้เกิดการปิดกั้นในลำน้ำห้วยเคียง จนทำให้น้ำเอ่อและไหลหลากเข้าท่วมชุมชน และหอพัก รวมทั้งบ้านเรือนของประชาชน จนทำให้ทรัพย์สินจำนวนมากได้รับความเสียหาย