ข่าว

แทบล้มทั้งยืน ไฟไหม้บ้านวอด ร่ำไห้คุ้ยกองถ่าน หาสมบัติก้อนสุดท้าย

18 ก.ย. 2567

แม่บ้านสนามบิน แทบล้มทั้งยืน ไฟไหม้บ้านวอด ร่ำไห้คุ้ยกองถ่าน หาสมบัติก้อนสุดท้าย ที่เก็บสะสมไว้เตรียมขาย เตรียมพาลูกไปอาศัยวัดอยู่ชั่วคราว

18 ก.ย. 2567 เมื่อเวลา 04.00 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านสองชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ ภายในซอยสัตหีบสุขุมวิท 29 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ใช้เวลา30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ส่วนบ้านถูกเพลิงไหม้วอดทั้งหลัง สันนิษฐานว่า อาจเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากบ้านมีสภาพเก่า

หลังเพลิงสงบลง น.ส.ปัทมา (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี อาชีพ แม่บ้านสนามบินอู่ตะเภา และนายนภรัฐ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี บุตรชาย ผู้เช่าบ้าน ช่วยกันคุ้ยกองเพลิง จุดที่ตั้งชั้นวางของ ที่ได้ถูกเพลิงเผาเหลือเพียงเศษซาก
 

แทบล้มทั้งยืน ไฟไหม้บ้านวอด ร่ำไห้คุ้ยกองถ่าน หาสมบัติก้อนสุดท้าย

น.ส.ปัทมา มีอาการเศร้าโศกเสียใจ ขุดไปน้ำตาไหลพรากไป เพื่อต้องการหาสมบัติสุดท้ายที่เก็บสะสมไว้ ใช้เวลาอยู่นานเกือบ 10 นาที ก็พบสิ่งที่กำลังค้นหา เป็นกระป๋องใส่พระเครื่องเก่าแก่ ทั้งชนิดเนื้อดิน และเหรียญ อาทิ หลวงปู่ทิม หลวงปู่โต๊ะ หลวงปู่ทวด กว่า 20 องค์ แต่ได้ถูกเพลิงเผาไหม้จนดำ แทบไม่เหลือชิ้นดี นอกจากนี้ ยังพยายามค้นหาสร้อยทองเค น้ำหนักไม่กี่กรัม แต่ก็หาไม่พบ

น.ส.ปัทมา เปิดเผยว่า เช่าบ้านหลังนี้อยู่มานานร่วม 20 ปี ก่อนเกิดเหตุไม่ได้นอนบ้าน ทิ้งลูกชายอยู่เพียงลำพัง จนมาทราบข่าวไฟไหม้ในช่วงเช้า ต้องถึงกับแทบเป็นลม เพราะเพลิงได้เผาผลาญสิ่งของภายในบ้านไปจนหมดสิ้น
 

แทบล้มทั้งยืน ไฟไหม้บ้านวอด ร่ำไห้คุ้ยกองถ่าน หาสมบัติก้อนสุดท้าย

ส่วนของมีค่าเป็นพระเครื่อง ที่คุ้ยหาขึ้นมาได้จากกองเพลิง เป็นสมบัติสุดท้ายที่เก็บสะสมไว้ เตรียมจะขายให้กับผู้รักสะสมในพระเครื่อง โดยตกลงราคากันไว้แล้วที่ประมาณ 20,000 บาท แต่ยังไม่ได้มีการส่งมอบ ก็มาถูกไฟไหม้บ้านเสียหายจนหมดสิ้น

โดยตั้งใจว่าจะนำเงินส่วนนี้จ่ายค่าเช่าบ้าน ที่ติดค้างไว้ 5 เดือน สุดท้ายแล้วความหวังที่ตั้งใจไว้กับพังทลายลง ตอนนี้ไม่มีแม้ที่ซุกหัวนอน จากนี้จะพาลูกไปขออาศัยนอนวัดชั่วคราว
 

แทบล้มทั้งยืน ไฟไหม้บ้านวอด ร่ำไห้คุ้ยกองถ่าน หาสมบัติก้อนสุดท้าย แทบล้มทั้งยืน ไฟไหม้บ้านวอด ร่ำไห้คุ้ยกองถ่าน หาสมบัติก้อนสุดท้าย
 

affaliate-2