ข่าว

“ม.ราม” มีคำสั่งไล่ออก “อดีตผู้บริหาร” ปมคัดลอกผลงาน

“ม.ราม” มีคำสั่งไล่ออก “อดีตผู้บริหาร” ปมคัดลอกผลงาน

20 ก.ย. 2567

“ม.รามคำแหง” มีคำสั่งไล่ออกจากราชการ “อดีตผู้บริหาร” เหตุละเมิดจรรยาบรรณวิชาการร้ายแรง ปมคัดลอกผลงาน เรียกคืนสิทธิ์ประโยชน์

“ม.ราม” มีคำสั่งไล่ออก “อดีตผู้บริหาร” ปมคัดลอกผลงาน

20 ก.ย. 2567 รายงานข่าวจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง(มร.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมา ทางมหาวิทยาลัยได้ออกคำสั่งที่ 3093/2567 เรื่องการลงโทษไล่ออกจากราชการต่ออดีตผู้บริหารท่านหนึ่ง

 

เนื่องจากมีพฤติกรรมละเมิดจรรยาบรรณทางวิชาการอย่างร้ายแรง โดยการคัดลอกผลงานของตนเองและนำไปตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารวิชาการสองฉบับ ซึ่งแต่ละฉบับมีเนื้อหาที่ซ้ำซ้อนกันมากกว่า 90%

 

เหตุการณ์นี้เริ่มต้นจากการร้องเรียนต่อสภามหาวิทยาลัยรามคำแหงในปี 2565 โดยผู้ร้องเรียนระบุว่าอดีตผู้บริหารระดับสูงรายนี้ได้ตีพิมพ์บทความภาษาไทยสองชิ้นร่วมกับอาจารย์อีก 4 คน

โดยเนื้อหาในบทความทั้งสองมีความเหมือนกันหรือคัดลอกกันเกินกว่า 80% โดยไม่มีการอ้างอิงที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ นอกจากนี้ ผู้บริหารรายนี้ยังอ้างการมีส่วนร่วมในผลงานทั้ง 2 ชิ้นที่ขัดแย้งกัน โดยชิ้นหนึ่งอ้างว่ามีส่วนร่วม 5% แต่อีกชิ้นหนึ่งอ้างว่ามีส่วนร่วม 0% ทั้งที่เนื้อหามีความเหมือนกันเกินกว่า 90%

 

นอกจากนี้ ยังมีบทความภาษาอังกฤษอีกหนึ่งชิ้นที่เขียนร่วมกับนักวิชาการอีก 2 คน ซึ่งถูกนำไปตีพิมพ์ในวารสารวิชาการสองฉบับ โดยมีเนื้อหาที่เหมือนกันเกินกว่า 58% โดยไม่มีการอ้างอิงผลงานเดิม

 

บทความนี้ยังถูกนำไปเสนอในการประชุมวิชาการต่างประเทศและใช้เป็นผลงานทางวิชาการเพื่อประกอบการพิจารณาคุณสมบัติการเป็นอาจารย์ประจำหลักสูตรของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ทั้งที่ไม่ได้มีการตีพิมพ์เผยแพร่ตามเกณฑ์มาตรฐานของ ก.พ.อ.

 

พฤติกรรมดังกล่าวส่งผลเสียหายต่อชื่อเสียงของสถาบันและทำให้หลักสูตรของมหาวิทยาลัยเสี่ยงต่อการตกเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งอาจนำไปสู่การเพิกถอนหลักสูตรได้

 

ผู้บริหารรายนี้เคยถูกสภามหาวิทยาลัยรามคำแหงถอดถอนจากตำแหน่งด้วยความผิดหลายข้อ และถูกเลิกจ้างจากการเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 อย่างไรก็ตาม การสอบสวนข้อเท็จจริงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนการเลิกจ้าง

 

ในการสอบสวน สภามหาวิทยาลัยรามคำแหงได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อร้องเรียน 2 ชุด ซึ่งประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอก ผลการตรวจสอบสรุปว่าข้อกล่าวหามีมูล จึงมีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง แต่ผู้บริหารรายนี้ไม่ให้ความร่วมมือในการชี้แจง

 

ผลการพิจารณาของคณะกรรมการนำไปสู่การลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรง โดยให้ไล่ออกจากราชการนับแต่วันที่ถูกเลิกจ้าง นอกจากนี้ ยังอาจส่งผลให้มหาวิทยาลัยต้องเพิกถอนตำแหน่งทางวิชาการของอดีตผู้บริหารรายนี้ เรียกคืนสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากการดำรงตำแหน่งทางวิชาการ และอาจมีการดำเนินคดีอาญาในหลายข้อหาด้วย