ข่าว

ปริมาณน้ำ เขื่อนสิริกิติ์ ปริ่มความจุ เยอะสุดรอบ 13 ปี มั่นใจ ยังมีพื้นที่รองรับน้ำ

ปริมาณน้ำ เขื่อนสิริกิติ์ ปริ่มความจุ เยอะสุดรอบ 13 ปี มั่นใจ ยังมีพื้นที่รองรับน้ำ

24 ก.ย. 2567

ปริมาณน้ำปริ่มความจุ "เขื่อนสิริกิติ์" เยอะสุดรอบ 13 ปี ผู้ช่วย ผอ. กางแผนรับสถานการณ์ มั่นใจ ยังมีพื้นที่รองรับน้ำ เพียงพอ สำหรับช่วงปลายฤดูฝนนี้

24 ก.ย. 2567 นายสุบิน เนตรสว่าง ผู้ช่วย ผอ.เขื่อนสิริกิติ์-1 (ช.อขส-1.) เปิดเผยว่า เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ เขื่อนดินที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ และสามารเก็บกักน้ำได้ 9510 ล้าน ลบ.ม. ตั้งแต่ช่วงเดือน ส.ค. เป็นต้นมา พื้นที่เหนือเขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณฝนตกหนักต่อเนื่อง โดยเฉพาะ จ.น่าน

ส่งผลให้มวลน้ำไหลเข้าเขื่อนสิริกิติ์ และเก็บกัก ณ ปัจจุบัน(วันที่ 24 ก.ย.67) มีระดับน้ำอยู่ที่ 156.82 เมตร รทก. มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ 8,216.89 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 86.40 เป็นปริมาณน้ำพร้อมใช้งาน 5,366 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 80 ซึ่งเป็นปริมาณน้ำที่เขื่อนสิริกิติ์เก็บกักมากที่สุดในรอบ 13 ปี นับจากปี 2554 ที่มีปริมาณน้ำเก็บกักสูง 9,048 ล้าน ลบ.เมตร 
 

ปริมาณน้ำ เขื่อนสิริกิติ์ ปริ่มความจุ เยอะสุดรอบ 13 ปี มั่นใจ ยังมีพื้นที่รองรับน้ำ

โดย เขื่อนสิริกิติ์ ยังสามารถรับน้ำได้อีก 1,293 ล้าน ลบ.ม. จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา มีปริมาณฝนตกในพื้นที่ภาคเหนือมีแนวโน้มลดลง ส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ลดลง โดยคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ อีกประมาณ 500 ล้าน ลบ.ม. 

สำหรับแผนการระบายน้ำของเขื่อนสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 24-29 ก.ย. 2567 มีแผนการระบายน้ำวันละ 20 ล้าน ลบ.ม. เฉลี่ย 230 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งถือว่ายังต่ำกว่าเกณฑ์กำหนดไว้ที่ 1250 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งที่ผ่านมาเขื่อนสิริกิติ์เคยระบายน้ำเต็มพิกัด 60 ล้าน ลบ.เมตร ในปี 2538 และ 2554 เป็นปีที่น้ำเต็มอ่างเก็บน้ำ

ทั้งนี้ ด้วยท้ายเขื่อนสิริกิติ์ มีฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้แม่น้ำสาขาต่างๆ รวมไปถึงน้ำป่าไหลลงสู่แม่น้ำน่านท้ายเขื่อนสิริกิติ์ด้วย จึงอาจส่งผลให้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น หากการพยากรณ์อากาศพบว่ามีการก่อเกิดของพายุและมีปริมาณฝนตกเพิ่มขึ้น จะมีโอกาสต่อการระบายน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ในปริมาณที่เพิ่มขึ้น
 

ปริมาณน้ำ เขื่อนสิริกิติ์ ปริ่มความจุ เยอะสุดรอบ 13 ปี มั่นใจ ยังมีพื้นที่รองรับน้ำ

โดยมีคณะกรรมการร่วมกันหารือในการบริหารจัดการน้ำ รวมถึงการจัดตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำภาวะวิกฤต ที่มีหลายหน่วยงานเข้ามาร่วมบริหารจัดการ อาทิ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กรมชลประทาน และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมกันวิเคราะห์ ติดตาม และประเมินสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด

ขอให้มั่นใจว่า ปัจจุบัน เขื่อนสิริกิติ์ยังมีพื้นที่รองรับน้ำได้เพียงพอสำหรับช่วงปลายฤดูฝนนี้ ประกอบกับปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยถูกนำมาใช้ในการวิเคราะห์และคาดการณ์สถานการณ์น้ำ ส่งผลให้การบริหารจัดการน้ำทำได้อย่างเป็นระบบ ทำให้มั่นใจได้ว่าสถานการณ์น้ำในปีนี้จะไม่เหมือนกับปี 2538 อย่างแน่นอน

ด้านความมั่นคงปลอดภัยของเขื่อนสิริกิติ์ มีการติดตั้งเครื่องมือวัดพฤติกรรมเขื่อน มีเจ้าหน้าที่ตรวจวัดพฤติกรรมของเขื่อนเป็นประจำทุกสัปดาห์ และทุกเดือนแล้ว และในภาวะเช่นนี้ ยังได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจากฝ่ายบำรุงรักษาโยธา กฟผ. ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบความมั่นคงปลอดภัยของเขื่อน โดยมีแผนการตรวจติดตามระหว่างวันที่ 2-4 ต.ค. 2567 จึงอยากให้ประชาชนมั่นใจว่าเขื่อนสิริกิติ์ ยังคงมีความมั่นคงแข็งแรงดี
 

ปริมาณน้ำ เขื่อนสิริกิติ์ ปริ่มความจุ เยอะสุดรอบ 13 ปี มั่นใจ ยังมีพื้นที่รองรับน้ำ

สุดท้ายนี้ขอฝากถึงพี่น้องประชาชนว่า ณ วันนี้เขื่อนสิริกิติ์ได้กักเก็บปริมาณน้ำไว้ใช้การในปีถัดไปได้เป็นอย่างดี และเพียงพอ สำหรับการอุปโภค-บริโภค การเกษตรกรรม การประมง รวมถึงการรักษาสภาพสมดุลของระบบนิเวศทางด้านท้ายเขื่อนสิริกิติ์ และหากเกิดภาวะวิกฤตขึ้น เขื่อนสิริกิติ์จะมีการสื่อสารร่วมกับหน่วยงานส่วนราชการ ไปยังพี่น้องประชาชนได้รับทราบต่อไป