เจ้าของที่ ร้องขอที่คืน หลัง แบงก์ฟ้องบังคับขายมรดกทอดตลาด ทั้งที่จ่ายหนี้ | คมชัดลึก

กรณี ชาวบ้าน ตำบลดอนทราย อ.ควนขนุน จ พัทลุง ร้องขอความเป็นธรรม หลังจากที่ถูก ธนาคาร ฟ้องบังคับคดีขายทอดตลาดที่ดิน พื้นที่ 1 ไร่ 37 ตารางวา ซึ่งเป็นที่ดินมรดกตกทอดจากพ่อ ทั้งที่เธอชำระหนี้ของธนาคารทั้งหมดแล้ว ทราบชื่อ 
ผู้เสียหาย คือ ป้าสมใจ นามคล้าย อายุ 66 ปี 

 

ป้าสมใจ เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ก่อนหน้านี้ ตน ได้กู้เงินจากธนาคารออมสิน สาขาควนขนุน  ร่วมกับเพื่อนอีก 2 คน ละ 50,000 บาท และได้ชำระหนี้กันหมดแล้ว ต่อมาในช่วงปี 2555 ทางธนาคาร ได้เปิดโอกาสให้ ตน กู้เงินต่อรอบใหม่ จำนวน 50,000 บาท โดยที่เพื่อนบ้านอีก 2 คน ไม่กู้เพิ่มต่อ 

 

หลังจากที่กู็เงินก้อนนี้มา และผ่อนไปสักระยะ ตน มีปัญหาเรื่องการผ่อนส่งธนาคาร เนื่องจาก ได้ย้ายไปอยู่ภูเก็ต และเป็นช่วงสถานการณ์ โควิด-19 ระบาด ทำให้ถูกธนาคารฟ้อง แต่ หลังถูกฟ้องก็เข้าไปไกล่เกลี่ยกับทางธนาคาร ขอผ่อนต่อ จนหนี้คงเหลือหมื่นกว่าบาท ก็มีปัญหาเรื่องการขาดส่งอีกครั้ง จนทางธนาคารส่งบังคับคดี เพื่อขายทอดตลาด โดยกำหนดการขายทอดตลอด 6 ครั้ง เริ่มต้นในวันที่ 18 กรกฎาคม 2567 สิ้นสุดครั้งสุดท้าย วันที่ 31 ตุลาคม 2567 

 

ป้าสมใจ เล่าต่อว่า หนี้ที่ติดค้างกับธนาคาร วงเงิน 10,206 บาท ตน ได้นำไปชำระกับธนาคาร ก่อนวันกำหนดการขายทอดตลาด งวดแรก ในวันที่  10 กรกฎาคม 2567 หลังจากชำระหนี้ดังกล่าวแล้ว ก็ได้ประสานให้ทางธนาคาร แจ้งระงับการขายทอดตลาด แต่จู่ ๆ ที่ดินของเธอ จำนวน 1 ไร่ 37 ตารางวา ในพื้นที่ตำบลป่าพะยอม อ ป่าพะยอม จ พัทลุง ที่เป็นมรดกของพ่อของเธอ ถูกขายไป โดยตรวจสอบพบว่า ถูกขายในวันที่ 8 สิงหาคม 2567 วันกำหนดขายทอดตลาดครั้งที่ 2 

 

ซึ่ง ตน  พยายามประสานทางธนาคารเพื่อร้องขอความเป็นธรรม แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ และทางธนาคาร ไม่ได้ติดต่อกลับมา เธอจึงร้องขอความช่วยเหลือผ่านสื่อ เพราะไม่ต้องการสูญเสียมรดกที่ตกทอดมาจากผู้เป็นพ่อไป 

 

นายชุมพล งามคล้าย อายุ 70 ปี สามีป้าสมใจ บอกว่า มารู้ว่า ที่ดินของเขาถูกขายไป เพราะมีชาวบ้านโทรมาบอกว่า มีคนเอารถแบคโฮ เข้าไปปรับพื้นที่ ทางครอบครัวตกใจมาก ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เพราะหนี้สิน ทางครอบครัว ก็ชำระไปทั้งหมดแล้ว 

 

ขณะที่ นายธนันชัย รามด้วง ทนายความ กล่าวว่า จากการตรวจสอบ พบว่า ทรัพย์สินของลูกหนี้ มีราคาตามท้องตลาดสูงกว่าที่เป็นหนี้มาก กรณีดังกล่าวถือเป็นความผิดพลาดของทางธนาคาร ที่ไม่ระงับการขาย ทั้งที่ไม่มีหนี้แล้ว และที่สำคัญเจ้าหน้าที่ของธนาคาร ได้ไปดูแลการขายด้วยตนเอง ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้น เพราะการบังคับคดี 
ก็เพื่อทางธนาคารต้องการหนี้คืน เมื่อได้หนี้คืนแล้วก็ไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องบังคับคดี และไปขายทรัพย์สินของลูกหนี้ 

 

สำหรับที่ดินแปลงดังกล่าว ทราบว่า มีคนไปซื้อจากการบังคับคดี ในวงเงิน 87,000 บาท และ ได้มีการขายต่อไปให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งมีที่ดินติดกับแปลงดังกล่าว ไปแล้วในราคาหลักแสนบาท

 
ล่าสุดช่วงเช้าวันนี้ (26 ก.ย.) นางสมจิตร์ ทองจุ้น ผู้อำนวยการภาค 17 พร้อมผู้จัดการธนาคารออมสิน สาขาพัทลุง และคณะเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสิน สาขาอำเภอควนขนุน เดินทางไปที่บ้านพักของป้าสมใจ เพื่อรับทราบและหาแนวทางในการแก้ปัญหา เยียวยาให้กับครอบครัวของป้าสมใจ

 

โดยทางธนาคาร ยอมรับในความผิดพลาด ที่เกิดขึ้น โดยเบื้องต้นป้าสมใจ ได้ยื่นข้อเสนอให้ทางธนาคาร คืนที่ดินแปลงดังกล่าวให้กับครอบครัว หรือให้ทางธนาคาร จ่ายเงินค่าเยียวยาให้กับครอบครัว ซึ่งทางตัวแทนของธนาคารออมสิน ได้รับเรื่อง และขอเวลาในการดำเนินการภายใน 15 วัน