ข่าว

สท. ยืนยัน ไม่เคยไล่ทีมรถแบคโฮ แต่เชิญประชุมแบ่งงาน กลับไม่มาสักครั้ง

สท. ยืนยัน ไม่เคยไล่ทีมรถแบคโฮ แต่เชิญประชุมแบ่งงาน กลับไม่มาสักครั้ง

27 ก.ย. 2567

"สท." ชี้แจงดราม่า สั่งทีมรถแบคโฮหยุดภารกิจ เผยเชิญเข้าประชุมแบ่งงาน 2 ครั้ง ไม่มาสักครั้ง ด้าน "หนุ่มขับแบคโฮ" ยืนยัน ไม่เคยเรียกรับเงิน หลังมีแชทหลุด 4,000

ดราม่ารถแบคโฮจิตอาสาช่วยเหลือผู้ประสบภัยเชียงราย ถูกเจ้าหน้าที่เชิญออกจากพื้นที่ พร้อมมีแชทหลุดอ้างเป็นค่าจ้างจำนวน 4,000 บาท ล่าสุดสภาเทศบาล (สท.) ต.เวียงพางคำ จ.เชียงราย ออกมาชี้แจงแล้ว ยืนยันไม่ได้ไล่ แต่เชิญเข้าประชุมแล้ว กลับไม่เคยมา

 

จากกรณีเพจของ "สันชัย อะไหล่แมคโค" ได้โพสต์ข้อความพร้อมมีภาพรถแบคโฮที่เข้าไปขุดตักดินโคลนที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย พร้อมระบุว่า "ได้นำรถแบคโฮจำนวน 8 คัน เข้าไปขุดตักดินที่บริเวณถ้ำผาจม แต่ปรากฎว่าได้ถูกสั่งให้ย้ายออกหมดแล้วในวันนี้" 

 

โดยเพจดังกล่าวยังระบุด้วยว่า "สาเหตุอาจจะเป็นเพราะเราทำดีเกินไป หรือ อาจทำไม่ถูกใจใคร เราจึงตัดสินใจย้ายออกทั้งหมด เมื่อคุณไม่ต้องการเรา และไปลุยต่อที่อื่น ในที่ๆมีความต้องการเรา เราไปด้วยใจ ใจเราสูงกว่า ใจเราเด็ดกว่า เราตั้งใจไป ใจเราใหญ่กว่าหน้าตา"

 

แชทหลุด

จากนั้นได้ปรากฎภาพและข้อความการเข้าไปขุดตักดินช่วยชาวบ้านพื้นที่ชุมชนเกาะทราย ซึ่งอยู่อีกฟากของด้านข้างสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 1 พร้อมระบุว่า "รถเราเงินเรา ชาวบ้านได้ประโยชน์ สะอาดขึ้นเยอะเลย ชาวบ้านเกาะทรายโชคดีที่ทีมรถขุดเราเข้าไปทำ" 

 

จากกรณีดังกล่าว ทำให้เกิดประเด็นดราม่ามีการวิพากษ์วิจารณ์ 

 

 

สท. ยืนยัน ไม่เคยไล่ทีมรถแบคโฮ แต่เชิญประชุมแบ่งงาน กลับไม่มาสักครั้ง

ล่าสุด.27 ก.ย.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังพบมีการนำรถแบคโฮออกช่วยเหลือผู้ประสบภัยชาวแม่สายอยู่ตามปกติ โดยไม่ได้มีการน้อยเนื้อต่ำใจ จนนำรถแบ็คโฮออกจากนอกพื้นที่ เพียงแค่ย้ายจุดจากจุดที่โดนสั่งห้ามไม่ให้เข้า ย้ายมายังพื้นที่แห่งใหม่ในพื้นที่ชุมชนเกาะทราย

 

นายบรรพต ฉวีชาติ

ด้านนายบรรพต ฉวีชาติ อายุ 30 ปี พนักงานขับรถแบคโฮ ที่ถูกให้หยุดทำงาน เล่าว่า ขณะที่กำลังจะนำรถแบคโฮเข้าไปปฎิบัติงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ชุมชนถ้ำผาจมตามปกติเหมือนทุกวัน แต่ก็ได้มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งมาแจ้งไม่ให้ทางตนและทางชุดปฎิบัติงานของพวกตนเข้าไปยังบริเวณหน้างาน ซึ่งมันก็เหมือนไล่พวกตนออกมา ไม่รู้ว่าเขาจงใจไล่หรือให้รอประชุมก่อนหรืออย่างไร แต่ก็ไม่มีใครแจ้ง แจ้งเพียงแต่ว่า ไม่ให้เข้าไปยังหน้างานเท่านั้น หากใครได้ยินแบบนี้จะคิดอย่างไร

 

ยืนยัน การเดินทางมาช่วย มาช่วยด้วยใจ ซึ่งเถ้าแก่ ออกค่าน้ำมันในเบื้องต้นให้ก่อนทั้งหมด ส่วนหน้างานพวกตนก็มีหน้าที่ปฎิบัติและไม่ทราบรายละเอียดเรื่องค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ เพราะไม่ค่อยได้คุยปฎิบัติงานอย่างเดียว 

 

ส่วนกรณีประเด็นที่แชทหลุดและมีชาวบ้านบางคนระบุว่า ทางทีมปฎิบัติงานเรียกค่าว่าจ้างและเรียกรับเงิน นายบรรพต กล่าวว่า พวกตนปฎิบัติงานมาได้ประมาณ 3 วันแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้มีการเรียกรับเงินรับทองจากผู้ประสบภัย พวกตนทำหน้าที่ปฎิบัติงานเพียงอย่างเดียว ส่วนที่ว่าจะมีคนว่าจ้างอย่างไรนั้น ก็ให้ทางเถ้าแก่หรือนำหลักฐานเป็นสัญญาว่าจ้างมาให้ดู 

 

นายบรรพต ย้ำพวกตนทำงานและไม่เคยเรียกรับเงิน ที่พักอาศัยก็พักฟรีที่โรงแรมแม่โขงเดลด้า ซึ่งภาคเอกชนเปิดให้พักฟรี สำหรับจิตอาสาที่มาช่วยพื้นฟูอยู่แล้ว ไม่จำเป็นที่จะอ้างเรื่องค่าที่พัก เพื่อขอรับเงินจากผู้ประสบภัย 

 

นายบัณฑิตย์ พันธ์พลากร

ด้านนายบัณฑิตย์ พันธ์พลากร สมาชิกสภาเทศบาล (สท.) ต.เวียงพางคำ ชี้แจงว่า แท้จริงแล้ว เจ้าหน้าที่ไม่เคยสั่งให้ใครหยุดงานหรือออกไป แต่ที่ผ่านมาได้มีการประชุมร่วมหน่วยงานต่างๆ เพื่อเข้าฟื้นฟูพื้นที่ จึงได้เชิญให้ผู้นำรถแบคโฮเล็กเข้าไปร่วมประชุมด้วย เพื่อสรุปงานกันในช่วงเช้าช่วงเที่ยงวันและช่วงเย็นตามลำดับ โดยมีการแบ่งงานกันทำในแต่ละหน่วยงาน ซึ่งที่ผ่านมามีหน่วยงานร่วมกันประมาณ 9 หน่วยงาน ปรากฎว่า ทีมรถแบคโฮเล็กได้เข้ามาภายหลังและไม่ทราบว่าได้ประสานงานหน่วยงานใดมาแล้วหรือยัง 

 

จึงได้มีการเชิญให้ไปร่วมประชุมกันแล้ว 2 ครั้ง เพื่อให้การทำงานเป็นไปในแนวทางเดียวกัน แต่ปรากฎว่า กลุ่มดังกล่าวกลับไม่เข้าร่วม ทำให้การทำงานไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกันและที่จะทำให้เร็วกลับช้าลง ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่า เป็นเพราะเรื่องนี้ จึงทำให้เอกชนไม่พอใจหรือไม่ แต่ยืนยันว่า "ไม่มีใครไปสั่งให้ใครหยุดงานอย่างแน่นอน"