ข่าว

ป้าวัย 68 สุดระทม เล่าทั้งน้ำตา ลูกสาวสั่งรปภ.ห้ามเข้าหมู่บ้าน ต้องเร่ร่อนนอนตากฝน

ป้าวัย 68 สุดระทม เล่าทั้งน้ำตา ลูกสาวสั่งรปภ.ห้ามเข้าหมู่บ้าน ต้องเร่ร่อนนอนตากฝน

27 ก.ย. 2567

ป้าวัย 68 เล่าน้ำตาอาบแก้ม มาหาลูกสาวเพื่อรับเงินค่าเลี้ยงดู กลับถูก รปภ.ห้ามเข้าหมู่บ้าน ต้องเร่ร่อน นอนตากฝน ทั้งที่แบ่งมรดกให้ลูกๆ 3 คนหมดแล้ว ผู้ช่วย รมว.สธ. เข้าช่วยเหลือ

27 ก.ย. 2567 เวลา 13.30 น. นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี และเจ้าหน้าที่คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนนทบุรี เดินทางมายังโรงพัก สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังได้รับเรื่องร้องเรียนว่า มีป้าอายุ 68 ปี ถูกลูกสาวขับไล่ออกจากหมู่บ้าน ไม่ให้เข้าบ้าน

 

ทำให้ป้าไม่มีที่พักอาศัยต้องเร่ร่อน นอนตากฝน เร่ร่อนไปทั่วหมู่บ้าน ที่วัด และรถกอล์ฟ โดยป้าโวยวายด่าทอลูกสาวเป็นประจำ สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้คนในหมู่บ้าน จนต้องถ่ายคลิปร้องขอความช่วยเหลือไปยังนายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ให้ลงพื้นที่มาช่วยเหลือ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง ได้เชิญตัวป้า  ทราบชื่อต่อมา นางวีณา มาพักนอนรอที่โรงพักก่อน ระหว่างรอความช่วยเหลือจากหน่วนงานต่าง ๆ

 

นางวีณา เปิดเผยว่า เมื่อ 2 วันก่อน นั่งรถแท็กซี่มาหาลูกสาวกับลูกเขยที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในอำเภอบางบัวทอง เพื่อจะมาทวงเงินค่าเลี้ยงดูรายเดือนที่ลูกๆ อีก 2 คน ได้โอนเงินผ่านมาที่ลูกสาวคนนี้ รวมกับที่ตัวลูกสาวต้องจ่ายให้ตนด้วยอีกเดือนละ 2 พันบาทเท่ากับคนอื่น ๆ รวมเป็นเดือนละ 6 พันบาท แต่ตอนนี้ผ่านมา 5 เดือนแล้วที่ตนไม่ได้รับเงินค่าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เดือน พ.ค.2567 จนต้องนั่งรถแท็กซี่มาทวงถาม

 

แต่ปรากฎว่าเมื่อตนนั่งรถแท็กซี่มาถึงหน้าหมู่บ้าน รปภ.กับนิติบุคคลของหมู่บ้านกลับไม่ให้ตนเข้าไปหาลูกสาวในหมู่บ้าน โดยอ้างว่าเป็นคำสั่งของลูกสาวตน ที่สั่งห้ามเอาไว้เด็ดขาดว่า ไม่ให้ตนเองเข้าไปในหมู่บ้านทุกกรณี ตนไม่มีเงินติดตัวเลยเพราะหวังว่าจะมาเอาเงินจากลูกสาว ที่ลูกคนอื่นๆ โอนฝากมาให้ จึงทำให้ไม่มีเงินจ่ายค่ารถแท็กซี่ ต้องขอยืมเงินจาก รปภ.หมู่บ้านไปจ่ายค่ารถแท็กซี่ก่อน

ป้าวัย 68 สุดระทม เล่าทั้งน้ำตา ลูกสาวสั่งรปภ.ห้ามเข้าหมู่บ้าน ต้องเร่ร่อนนอนตากฝน

จากนั้นเมื่อไม่มีเงินและยังเข้าไปหาลูกสาวกับลูกเขยในหมู่บ้านไม่ได้ จึงตัดสินใจนอนคอยลูกสาวอยู่หน้าหมู่บ้านแทน แต่ก็ยังไม่ได้พบกับลูกสาวเลย ตนต้องนอนตากแดดตากฝนอยู่ตรงนี้ จนกระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเชิญตัวให้ตนมาพักนอนที่โรงพักก่อน

 

นางวีณา กล่าวอีกว่า ปกติไม่ได้พักอาศัยอยู่กับลูกสาวคนนี้ แต่ทุกๆเดือนจะนั่งรถมาหาลูกสาวเพื่อมาเอาเงินค่าเลี้ยงดูที่ลูกๆคนอื่นโอนมาฝากกับลูกสาวคนนี้ไว้ให้ตน เอาไว้กินใช้รายเดือน แต่ครั้งนี้ลูกสาวกลับไม่ให้เงินตน โดยอ้างว่าเอาเงินไปใช้หนี้หมดแล้ว เป็นหนี้อะไรก็ไม่รู้ แถมยังสั่ง รปภ.กับนิติบุคคลไม่ให้ตนเข้าไปพบในหมู่บ้านอีก

 

นอกจากนี้ ตนยังต้องการพบลูกสาวคนนี้ เพื่อให้ช่วยรับรองเรื่องที่ตนจะขอย้ายไปอยู่ที่วัดด้วย ซึ่งทางวัดก็ให้ทางครอบครับเซ็นรับรองให้ก่อน ตนจึงหมดที่ไป เพราะไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน จะย้ายไปอยู่วัดก็ไม่มีใครรับรองให้

 

ด้านนายสุริยัน อายุ 42 ปี รปภ.ของหมู่บ้าน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 24 ก.ย.2567 ที่ผ่านมา เห็นคุณยายนั่งรถแท็กซี่มาหาลูกสาวในหมู่บ้าน แต่ลูกสาวไม่ออกมาพบ มีเพียงลูกเขยเท่านั้นที่ออกมาพบคุณยาย บอกว่าที่เดินทางมาหาลูกสาวเพราะจะมาเอาเงินค่าเลี้ยงดูรายเดือนที่ลูกๆโอนให้แก เพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายเดินทางไปอยู่วัดวังขนาย ที่ จ.กาญจนบุรี แต่ดูเหมือนทางลูกสาวจะไม่มีเงินให้คุณยาย ทำให้คุณยายไม่มีเงินที่จะเดินทางไปอยู่วัดตามที่ต้องการ จึงต้องเร่ร่อนอาศัยนอนแถวนี้ และยังถูกทางลูกสาวกำชับกับพวกตนซึ่งเป็น รปภ.ของหมู่บ้านด้วยว่า ไม่อนุญาตให้คุณยายเข้าไปหาในหมู่บ้านโดยเด็ดขาด ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไรกัน ด้วยความสงสารที่เห็นคุณยายตกอยู่ในสภาพนี้จึงตัดสินใจถ่ายคลิปแล้วส่งไปขอความช่วยเหลือ

 

ด้านนายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่สการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ตนได้รับคลิปร้องขอความช่วยเหลือมาจาก รปภ.ของหมู่บ้าน จึงได้เดินทางมาลงพื้นที่ติดตามข้อเท็จจริง จากการสอบถามพูดคุยกับคุณป้ารายนี้ พบว่าก่อนหน้านี้คุณป้าเคยอาศัยอยู่กับลูกสาวและลูกเขยในหมู่บ้านแห่งนี้มาก่อน แต่เกิดมีปัญหากับลูกสาวและลูกเขย จึงได้ย้ายออกจากบ้านไปโดยตระเวนไปอาศัยนอนตามวัดบ้าง โรงพักบ้าง บางครั้งได้เงินมาก็นำไปซื้อเหล้าขาวมาดื่มกิน และอาศัยนอนอยู่แถวหน้าป้อม รปภ. และถูกลูกสาวคนนี้สั่งห้ามเข้าหมู่บ้านอีกต่างหาก

 

เรื่องนี้หลังจากที่ตนรับฟังปัญหาแล้ว ต้องพูดคุยปรับความเข้าใจกันระหว่างลูกสาวกับคุณป้ารายนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาคุณป้าได้ขายบ้านและที่ดินแล้วนำมาแบ่งปันให้กับลูกๆ ทั้ง 3 คน ทำให้ลูกทั้ง 3 คน เป็นผู้ได้รับมรดกจากคุณป้าไป ดังนั้นตามกฎหมายแล้ว หากทอดทิ้งไม่ดูแลบุพการี ทางบุพการีสามารถฟ้องร้องเรียกนำเอามรดกกลับคืนมาได้

 

เรื่องนี้เป็นเรื่องของแม่ที่สามารถเลี้ยงดูแลลูกได้ 3 คน แต่ลูก 3 คน กลับเลี้ยงดูแม่คนเดียวไม่ได้ หลังจากนี้ตนจะลงพื้นที่ไปพบกับลูกสาวและลูกเขยของคุณป้า เพื่อพูดคุยกันก่อน นอกจากนี้ตนจะส่งคุณป้ารายนี้เดินทางไปตรวจสอบสุขภาพร่างกายว่ามีโรคประจำตัว หรืออาการที่ต้องรักษาจากการติดเหล้าหรือไม่ เนื่องจากคุณป้าเองก็เป็นนักดื่มมานาน

ป้าวัย 68 สุดระทม เล่าทั้งน้ำตา ลูกสาวสั่งรปภ.ห้ามเข้าหมู่บ้าน ต้องเร่ร่อนนอนตากฝน