"ประกันสังคม" แจง 2 รพ.เอกชนถอนตัวจากระบบ ยืนยันไม่กระทบผู้ประกันตน
2 รพ.เอกชน แจ้งถอนตัวจากระบบประกันสังคม "บุญสงค์" เผยไม่กระทบผู้ประกันตน ส่วนกรณีเรียกร้องเพิ่มค่ารักษาเป็น 15,000 ต้องถกคณะอนุกรรมการทบทวนอีกครั้ง
หลังจากที่มีการแชร์ภาพประกาศ 2 รพ.เอกชน คือ รพ.ซีจีเอชสายไหม และ รพ.กรุงเทพสุราษฎร์ธานี แจ้งถอนตัวออกจากการเป็นคู่สัญญากับสำนักงานประกันสังคม ภายในสิ้นปี 2567
รพ.ซีจีเอช สายไหม ระบุว่า ขอแจ้งถอนตัวออกจากการเป็นคู่สัญญากับสำนักงานประกันสังคม โดยผู้ประกันตนยังสามารถใช้บริการกับ รพ.ซีจีเอช สายไหม ได้อย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 67 หรือสิ้นปีนี้ ขอแนะนำให้ผู้ประกันตน เริ่มพิจารณารพ.ใหม่ตั้งแต่บัดนี้ เพื่อสามารถย้ายสิทธิได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ทั้งนี้ผู้ประกันตนสามารถติดต่อขอรับสรุปประวัติการรักษาของท่านได้ที่
รพ.กรุงเทพสุราษฎร์ ระบุว่า ขอแจ้งถอนตัวออกจากการเป็นคู่สัญญากับสำนักงานประกันสังคม โดยผู้ประกันตนยังสามารถใช้บริการกับ รพ.กรุงเทพสุราษฎร์ ได้อย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2567 หรือสิ้นปีนี้ ขอแนะนำให้ผู้ประกันตน เริ่มพิจารณารพ.ใหม่ตั้งแต่บัดนี้ เพื่อสามารถวางแผนในการย้ายสิทธิ ทั้งนี้ผู้ประกันตนสามารถดำเนินการขอประวัติการรักษาของท่านได้ที่ แผนกเวชระเบียน รพ.กรุงเทพสุราษฎร์แผนกเวชระเบียนชั้น 1
ในขณะที่นายกสมาคมรพ.เอกชนแสดงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งอาจทำให้หลายแห่งต้องถอนตัวจากการเป็นคู่สัญญากับสำนักงานประกันสังคม หลังจากที่ถูกปรับลดงบค่ารักษาในกลุ่มโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูงลงถึง 40% โดยลดลงจาก 12,000 บาทต่อหน่วย Adjusted RW เหลือเพียง 7,200 บาทต่อหน่วย นอกจากนี้ยังไม่ได้มีการปรับค่าบริการเป็นเวลากว่า 5 ปี ทำให้มีผลกระทบโดยตรงต่อรพ.เอกชน และผู้ประกันตนที่อาจต้องเผชิญกับภาวะเข้าถึงบริการรักษาพยาบาลที่สะดวก โดยมีข้อเสนอให้มีการพิจารณา ค่ารักษากลุ่มโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง ในอัตรา 15,000 บาทต่อหน่วย
ด้านนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ชี้แจงว่า กรณีของรพ.กรุงเทพสุราษฎร์ธานี ขอแจ้งออกจากประกันสังคม เพราะเป็นรพ.ขนาดเล็ก ส่วนใหญ่ผู้ประกันตนจะไปใช้สิทธิที่ รพ.สุราษฎร์ รพ.ที่เป็นศูนย์ขนาดใหญ่กว่า
ส่วนรพ.ซีจีเอช สายไหม เนื่องจากเครือรพ.ดังกล่าวมีรพ.หลายสาขา ต้องการให้ผู้ประกันตนราว 90,000 คน เข้าไปรับบริการที่รพ.ซีจีเอชลำลูกกา ซึ่งไม่มีปัญหา เพราะ รพ.รัฐ ในย่านนั้นรองรับได้
นายบุญสงค์ ยืนยัน ไม่กระทบกับผู้ประกันตน หากเป็นกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินสามารถเข้ารับบริการได้ ตามสิทธิUCEP และกองทุนเงินทดแทน ประกันสังคมก็สามารถใช้ได้ โดยหลักแล้วผู้ประกันตนจะเลือกรพ.ที่ใกล้ที่สุด เพราะเมื่อเจ็บป่วยเกินศักยภาพรพ.ก็จะส่งต่อ พร้อมยืนยันไม่ได้ลดเงินค่าบริการการแพทย์ทั้งในส่วนของผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกมีเงินเพิ่มให้ตามสิทธิ์ที่จะได้รับประโยชน์ และโรงพยาบาลได้รับสิทธิประโยชน์ที่ดีกว่าทุกสิทธิ์ด้วยซ้ำ ขณะนี้อัตราการจ่ายอยู่ที่ราวๆ 12,000 บาท แต่เป็นตัวเลขนี้มาหลายปีแล้ว ส่วนกรณีที่มีการเรียกร้องให้เพิ่มเป็นประมาณ 15,000 บาทนั้นจะต้องมีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาทบทวน