รถพ่วง ทำเหล็กแท่งหล่นขวางถนน รถยนต์ตามหลังมาเบรกไม่ทัน พังเสียหาย 7 คันรวด | คมชัดลึก

1 ต.ค. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปู จ.สมุทรปราการ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วงทำเหล็กแท่งหล่นลงบนพื้นผิวถนน ทำให้รถที่ใช้เส้นทางชนได้รับความเสียหายหลายคัน เหตุเกิดบนถนนแพรกษา บริเวณฝั่งตรงข้ามปั๊มน้ำมัน พีที ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

 

 

หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ยี่ห้อ ฮิโน่ สีขาว ทะเบียนกรุงเทพมหานคร จอดอยู่เลนขวา ที่ด้านหน้าพบเหล็กแท่งยาวประมาณ 6 เมตร น้ำหนักประมาณ 1 ตัน จำนวน 2 แท่ง อยู่บนพื้นถนน 

ห่างออกไปไม่ไกล ก็พบ รถยนต์ได้รับความเสียหายทั้งหมด 7 คัน แบ่งเป็น รถยนต์เก๋ง 5 คัน และรถยนต์กระบะ 2 คัน ได้รับความเสียหาย ยางและล้อแม็ก แตก ซึ่งมีรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ โตโยต้า วีออส สีดำ ได้รับความเสียหนักสุด คือ เครื่องแตก น้ำมันนองเต็มพื้นถนน เนื่องจากชนเข้ากับเหล็กที่ตกอยู่กลางถนน 

 

จากการสอบถาม ทราบว่า รถบรรทุกคันดังกล่าวได้บรรทุกเหล็กแท่งขนาดใหญ่มาเต็มคัน จนมาถึงจุดเกิดเหตุรถได้กระโดดคอสะพาน จนไม้ที่รองเหล็กดังกล่าวหักทำให้เหล็กแท่งไหลลงด้านข้าง จำนวน 2 แท่ง รถคันดังกล่าวก็ขับไปตามปกติจนมีรถขับตามไปบอกว่าทำเหล็กหล่นไว้ รถบรรทุกจึงวนกลับมาที่เกิดเหตุ ก็พบว่า มีรถยนต์ที่วิ่งมาชนเหล็กที่รถบรรทุกทำหล่นไว้ได้รับความเสียหายหลายคัน 

นายบำเรอ อินนุ่ม อายุ 58 ปี โชเฟอร์รถบรรทุกเหล็ก เล่าว่า ตนเองขับรถมาตามปกติในช่วงเลนกลาง ก่อนที่รถนั้นจะกระโดดคอสะพานจนไม้รองเหล็กนั้นหัก ทำให้เหล็กนั้นหล่นลงบนถนน ก่อนรถที่ขับมาชนจนได้รับความเสียหาย 

 

 

ด้าน นายพงษ์วรศ ฤกษ์ดี อายุ 31 ปี เจ้าของรถที่เสียหาย วีออส สีดำ เล่าว่า ตนเองขับรถมาตามถนนแพรกษาตามปกติ ประมาณ 70-80 เห็นอีกทีเหล็กก็อยู่กลางถนน ตนเองก็พยามประคองรถให้เข้าข้างทาง โดยหลังจากลงมาตรวจสอบก็พบว่า รถตนเองนั้น ล้อแม็กแตก เครื่องแตก ปืนเหล็กขึ้นมาเลย เพราะตนเองหลบไม่ทัน 

 

ขณะที่นายสัติภาพ ตันเอี่ยม อายุ 44 ปี เจ้าของรถที่เสียหาย ฮอนด้า สีขาว เล่าว่า ตนเองก็ขับรถมาตามปกติจนมาถึงจุดเกิดเหตุ ตนเองไม่ทราบว่า อะไรหล่อนอยู่กลางถนน ตนเองก็ขับค่อมมาเลย แต่หลบไม่ทันแล้ว ซึ่งความเสียหายนั้นก็มี ล้อแม็กแตกทั้ง 4 ล้อ ตนเองขับมาไม่เร็วประมาณ 40-50 ในช่วงเลนขวา แต่เหล็กนั้นขวางอยู่ทั้ง 2 เลน

 

 

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพ และลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะเชิญตัวโชเฟอร์รถบรรทุกพ่วง พร้อมผู้เสียหายทั้งหมด ไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่โรงพัก เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป