ข่าว

"ชวน" ร่วมอาลัยเหยื่อรถบัสไฟไหม้ ลั่นไม่ควรยกเลิกทัศนศึกษา แต่ควรจัดระบบ

"ชวน" ร่วมอาลัยเหยื่อรถบัสไฟไหม้ ลั่นไม่ควรยกเลิกทัศนศึกษา แต่ควรจัดระบบ

04 ต.ค. 2567

“ชวน หลีกภัย” ร่วมอาลัยครู นักเรียนเหยื่อรถบัสไฟไหม้ ลั่นไม่ควรยกเลิกทัศนศึกษา แต่ควรจัดระบบ - ระเบียบให้รัดกุม

4 ต.ค. 2567  เวลาประมาณ 11.00 น. นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมาที่ โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม ต.ลานสัก อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ซึ่งเป็นสถานที่ประกอบพิธี และเป็นสถานที่ตั้งศพนักเรียน-ครู 23 ราย เหตุรถบัสทัศนศึกษาไฟไหม้ พร้อมพบปะพูดคุยให้กำลังใจ และร่วมแสดงความเสียใจกับครอบครัวของครูและนักเรียน ทั้ง 23 ราย

นอกจากนี้ยังได้มอบเงินช่วยเหลือ ให้กับครอบครัวด้วยจำนวนหนึ่ง ผ่านสำนักงานคลังจังหวัดอุทัยธานี และก่อนเดินทางกลับนายชวน หลีกภัย ยังได้เดินทักทายให้กำลังใจกับประชาชนที่มาตั้งโรงทาน และชาวบ้านที่มาร่วมงานอย่างเป็นกันเอง

 

โดย นายชวน หลีกภัย กล่าวว่า ได้มีโอกาสให้กำลังใจพ่อแม่ ตายายของของเด็กนักเรียนและครู พร้อมทั้งได้มีโอกาสอภิปรายในสภาร่วมกับสมาชิก และได้ให้ข้อสังเกตไว้ข้อหนึ่งว่า ปัญหาเรื่องคุณภาพของยานพาหนะที่ใช้ ซึ่งทุกคนคงทราบเรื่องนี้กันดีแล้ว และพูดถึงเรื่องนี้กันอยู่ แต่ก็ได้ตั้งข้อสังเกตเช่นเดียวกันว่า การไปทัศนศึกษาของนักเรียนนั้นถือว่าเป็นประโยชน์ ไม่ควรไปยกเลิก เพียงแต่ว่าจัดระบบให้เหมาะสมว่าไปไกลแค่ไหน

 

เรียนชั้นไหน อายุเท่าไหร่ ซึ่งประเด็นที่สมาชิกพูดกันมากก็คือคุณภาพของยานพาหนะ ก็ขอให้โอกาสนี้ขอบคุณแทนพี่น้องชาวอุทัยธานี ที่สวัสดิการทั้งหลาย รวมทั้งท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วม เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และสมเด็จพระบรมราชินี พระราชวงค์ทุกพระองค์ที่ทรงห่วงใยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

เหตุการณ์ในครั้งนี้หากเปรียบเทียบแล้ว ถือเป็นครั้งที่รุนแรงที่สุด ครั้งหนึ่งของประเทศเรา หรืออาจจะของโลกที่เราสูญเสียคนด้วยอุบัติเหตุแบบนี้ถึง 23 คน และบาดเจ็บอีกรวมแล้วกว่า 50 คน ตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะเป็นการเตือนใจทุกฝ่ายให้ระมัดระวัง และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ก็ต้องระมัดระวัง อย่าให้สิ่งที่ไม่ถูกต้องปล่อยผ่านไป ก็เชื่อว่าเป็นวิธีป้องกันที่ดีที่สุด อีกทั้งประเทศเราก็ถือว่า เป็นประเทศที่เกิดอุบัติเหตุลำดับต้นๆ ของโลกด้วยเช่นกัน