รู้แล้ว! โคลนมหาศาล ใน อ.แม่สาย มาจากไหน? นักวิชาการชี้ ไม่รีบแก้ เจออีกแน่
นักวิชาการ เผย โคลน อ.แม่สาย มาจากการเปิดหน้าดินเกษตรพื้นที่ลุ่มน้ำในประเทศเพื่อนบ้าน จี้ถกคุยเมียนมา เตือนไม่เร่งแก้อนาคตหนักและถี่กว่าเดิม
ภายหลังปัญหาน้ำท่วม ดินโคลนถล่ม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ผ่านพ้นไป ชาวบ้านยังต้องเร่งทำความสะอาดบ้านเรือนและถนน เนื่องจากดินโคลนจำนวนมากคงอยู่
4 ต.ค. 2567 ดร.ชูโชค อายุรพงศ์ หัวหน้าศูนย์วิจัยด้านการจัดการภัยพิบัติทางธรรมชาติ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เวลาที่ฝนตกและน้ำในแม่น้ำไหลมาเร็วและแรงก็จะนำเอาหน้าดินที่มีการเปิดเอาไว้ในลุ่มแม่น้ำสาย ที่อยู่ฝั่งของประเทศเมียนมา ซึ่งในบริเวณนั้นมีการทำพืชเชิงเดี่ยวเป็นจำนวนมาก ทำให้ต้องเปิดหน้าดินอยู่ตลอด เมื่อน้ำหลากก็นำเอาตะกอน ดินและทรายมาพร้อมกับมวลน้ำจำนวนมหาศาล เมื่อเวลาน้ำไหลไปไหน สิ่งเหล่านี้ก็จะไหลตามไปด้วย
หลังจากที่น้ำเข้าไปในพื้นที่ชุมชน ความเร็วในการไหลของน้ำก็จะลดลง เมื่อไหลช้าการตกตะกอนก็จะมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น น้ำที่ผิวถนนกับภายในบ้านความเร็วของการไหลจะแตกต่างกัน ในบ้านจะไหลช้ากว่า ทำให้ดินโคลนเข้าไปอยู่ในบ้านมากกว่า
ซึ่งในปีต่อไป ก็อาจจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก จำนวนโคลนจะเข้าไปในพื้นที่ชุมชน เนื่องจากหากยังมีการเปิดผิวดินเพื่อทำการเกษตรเชิงเดี่ยวอยู่ที่ลุ่มน้ำแม่สาย น้ำก็จะนำเอาสิ่งเหล่านี้มาอยู่ดี
ทำให้หลังจากนี้ต้องมีการวางแผนพิจารณาการใช้ที่ดิน เพราะว่าในตอนนี้ลำน้ำแม่สายถูกขวางอยู่ จากสิ่งปลูกสร้าง ทั้งฝั่งของไทยและฝั่งของเมียนมา หากเป็นแบบนี้ต่อไปในอนาคต น้ำก็จะท่วมหนักและท่วมถี่มากยิ่งขึ้น แต่แนวทางในการแก้ไขปัญหาตรงนี้เป็นประเด็นใหญ่ระดับประเทศ เนื่องจากต้องมีการพูดคุยกับฝั่งของประเทศเมียนมา หากทำไม่พร้อมกันทั้งประเทศก็จะมีปัญหาตามมาในภายหลังได้
ซึ่งที่ผ่านมาในพื้นที่อำเภอแม่สายก็ถูกน้ำเข้าท่วมอยู่แล้วทุกปี แต่ในปีนี้มันมีปัจจัยที่เป็นดินโคลนเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำความสะอาดและฟื้นฟูได้ยาก ใช้เวลาดำเนินการนาน รวมถึงเงินในการที่ชาวบ้านจะนำมาฟื้นฟู เชื่อได้ว่าอุทกภัยในครั้งนี้จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้ผู้ประกอบการ หรือชาวบ้านตัดสินใจได้ว่า จะประกอบธุรกิจในพื้นที่สุ่มเสี่ยงอย่างนี้ต่อไปหรือไม่
ขณะที่การฟื้นฟูทำความสะอาด เจ้าหน้าที่ทหารและหน่วยงานต่างๆ ยังคงระดมกำลังกันป้องกันไม่ให้น้ำจากแม่น้ำไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนในพื้นที่แม่สาย โดยใช้รถแบคโฮขนาดใหญ่ลำเลียงเอากระสอบบิ๊กแบ็คเข้าไปอุดรูรั่วภายในชุมชนเกาะทราย คาดว่า หากทำได้ น้ำที่หลากเข้าท่วมจะค่อยๆลดลง
โดยในวันนี้ยังคงมีพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมเป็นวงกว้างในหลายจุด ระดับน้ำในแม่น้ำสาย ที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 ยังคงสูงจนเกือบแตะพื้นสะพาน โดยวัดได้กว่า 5 เมตร ที่ชุมชนบ้านถ้ำผาจม ซึ่งเมื่อวานนี้ได้นำท่อสูบน้ำซิ่งพญานาค ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 15 นิ้วไปสูบน้ำออกจากชุมชน ช่วยทำให้สถานการณ์เบาลง แต่ยังคงมีน้ำหลากท่วมอยู่บ้าง ไม่สูงนัก
สามารถนำรถแบคโฮและเครื่องจักรกลหนักลงพื้นที่เข้าไปฟื้นฟูได้ บริเวณตลาดสายลมจอย ซึ่งอยู่ถัดไปจากบ้านถ้ำผาจม น้ำยังคงท่วมสูง ไม่สามารถนำเครื่องจักรกลหนักเข้าไปอุดรูรั่วตามบ้านเรือนของประชาชนได้ และยังทำให้การฟื้นฟูทุกอย่างต้องหยุดลง
นอกจานี้พบว่ามีน้ำจากแม่น้ำสายที่ทะลักไหลเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนในชุมชนเกาะทราย ชุมชนไม้ลุงขน และบางส่วนของชุมชนเหมืองแดง แม้ว่าจะมีน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้างแต่มีแนวโน้มว่า ภายในวันนี้หากไม่มีฝนตกลงมาซ้ำเติมอีกน้ำที่ท่วมสูงจะค่อยๆลดลง ซึ่งน่าจะทำให้สามารถนำเครื่องจักรกลหนักเข้าไปทำการฟื้นฟูได้อีกครั้ง