แม่น้ำขาน ทะลักท่วม สันป่าตอง เชียงใหม่ เร่งช่วยผู้ป่วยติดเตียง-เด็กป่วย | คมชัดลึก

หลังจากที่ ฝนตกหนัก ต่อเนื่องในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ทำให้ระดับน้ำใน แม่น้ำขาน ที่ไหลผ่านพื้นที่ อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนหลายตำบลได้แก่ ต.น้ำบ่อหลวง ต.บ้านแม ต.ทุ่งสะโตก ต.บ้านกลาง รวมกว่า 2,500 หลังคาเรือน ที่ถูกแม่น้ำขานเอ่อล้นไหลเข้าท่วมตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 4 ต.ค. 2567 ที่ผ่านมา และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 

 

 

หลายหลังคาเรือนน้ำท่วมสูงถึงระดับอกและต้องมีการตัดกระแสไฟฟ้าเป็นวงกว้างเพื่อป้องกันอันตรายจากการถูก ไฟฟ้าดูด ซึ่งบางหมู่บ้านชาวบ้านต้อขนย้ายข้าวของ อุปกรณ์การเกษตร ของใช้ที่พอเก็บทัน รถจักรยานยนต์ มาจอดไว้ที่เกาะกลางถนน บริเวณถนนสันป่าตอง-แม่วาง ซึ่งทางกรมทางหลวงได้มีการปิดเส้นทางดังกล่าวเนื่องจากมีน้ำไหลเชี่ยวและท่วมสูง 

 

 

 

ขณะที่บ้านทุ่งเสี้ยว ต.บ้านกลาง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ก็เป็นอีกหนึ่งหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบโดยชาวบ้านต้องช่วยกันนำเชือกมาขึงไว้เพื่อใช้จับหากจะข้ามน้ำเนื่องจากน้ำไหลเชี่ยวมาก นอกจากนี้ยังมีการร้องขอความช่วยเหลืออพยพเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียง ที่ติดอยู่ในบ้านซึ่งตามภาพจะเห็นได้ว่าน้ำท่วมสูงจนถึงที่นอนแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยและทหาร ก็ได้ใช้เรือท้องแบนวิ่งฝ่ากระแสน้ำเข้าไปให้การช่วยเหลือด้วยความยากลำบาก 

 

เช่นเดียวกับการช่วยเหลือชาวบ้านบ้านร้องขุ้ม ม.7 ต.บ้านแม อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ที่ต้องมีการใช้ระบบเชือกในการลำเลียงชาวบ้านที่ติดอยู่ในบ้านออกมายังที่ปลอดภัยเนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยวเกินกว่าที่จะเดินฝ่าไปได้ อย่าวไรก็ตามหากคืนนี้ไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มคาดว่าสถานการณ์ทั้งหมดจะคลี่คลายใน 1-2 วัน

 

 

 

 

ขณะที่ทางเทศบาลในพื้นที่กำลังอยู่ในระหว่างการสำรวจความเดือดร้อน พร้อมกับประสานทีมกู้ภัยระดมเรือท้องแบนมาช่วยเหลือเคลื่อนย้ายและแจกจ่ายอาหารให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบต่อไป

 

 

 

 

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำเรือท้องแบนเข้าไปช่วยเหลือ เด็กหญิงอายุ 7 ขวบ ที่ป่วยเป็นไข้ขึ้นสูงและมีอาการชัก ทางผู้ปกครองไม่สามารถนำตัวส่งไปรักษาโรงพยาบาลได้เนื่องจากบ้านพักย่าน ถ.เจริญประเทศ ต.ช้างคลาน ในตัวเมืองเชียงใหม่ มีน้ำปิงเอ่อล้นเข้าท่วมสูงระดับคอทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ใช้เรือท้องแบนเข้าไปช่วยเหลือแล้ว นำเด็กพร้อมผู้ปกครองมามอบให้กับรถพยาบาลเพื่อส่งต่อ เด็กหญิงคนดังกล่าวไปทำการรักษา ด้วยความทุลักทุเล

 

 

 

 

โดย : ธนกร วงค์นาง