อลหม่าน! ชาวบ้านหนีตายกลางดึก หลังพายุฝนพัดถล่ม ทำบ้านเรือนพังกว่า 20 หลัง
ชาวบ้านหนีเอาชีวิตกลางดึก หลังพายุถล่ม พระสมุทรเจดีย์ กวาดบ้านเรือนประชาชนเสียหายกว่า 20 หลังคาเรือน หลังหลังคาปลิวหายไปทั้งแถบ
เมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 6 ต.ค.67 นาย ชัยพร กลิ่นกล้า ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งจากลูกบ้านภายในชุมชนซอยยิ้มแย้ม ว่ามีบ้านเรือนประชาชนถูกพายุฝนพัดถล่มจนบ้านพังเสียหายหลายหลังคาเรือนจึงเดินทางไปตรวจสอบความเสียหาย พร้อมประสาน นายพินิจ เติมบุญ นายกฯอบต.บ้านคลองสวน เจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.บ้านคลองสวนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านคลองสวน เข้าตรวจสอบและให้การช่วยเหลือเบื้องต้น
ที่เกิดเหตุพบบ้านเรือนประชาชนถูกลมพายุฝนพัดพังถล่มจนพังเสียหาย บางหลังหลังคาปลิวหายไปทั้งแถบ ฝาบ้านหลุดร่วง โครงหลังคาบ้าน ฝ้าเพดาน กระเบื้องมุงหลังคาพังหล่นเกลื่อนพื้น ศาลพระภูมิ ต้นไม้น้อยใหญ่และเสาไฟฟ้า หักโค่นลงมากอง ซึ่งในบริเวณชุมชนนี้มีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบในเบื้องต้นนับได้กว่า 10 หลังคาเรือน
และในพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.บ้านคลองสวนซึ่งเป็นพื้นที่อยู่ติดกันยังถูกพายุลูกดังกล่าวพัดใส่จนบ้านเรือนประชานได้รับความเสียหายนับกว่าอีก 10 หลัง ซึ่งทาง อบต.บ้านคลองสวน ได้เร่งให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมปิดกั้นบ้านที่ได้รับกระทบมากที่สุดเพื่อป้องกันบ้านพังเพิ่มเติมและป้องกันอันตรายต่อผู้พักอาศัย
จากการสอบถาม นาง อัญชัน สุขแก้ว อายุ 56 ปี เจ้าของบ้านที่ได้รับความเสียหายจากพายุเล่าด้วยสีหน้าตื่นตกใจว่า บ้านหลังดังกล่าวตนอยู่กัน 3 คน ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 19.30 น. ในขณะที่ตนนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ในบ้านได้ยินเสียงฝนตกลงมากระทบหลังคาแต่ไม่แรงนักสักครู่ใหญ่ได้ยินเสียงลมพัดดังเปรี้ยะๆ ก่อนที่หลังคาหน้าบ้านจะพังถล่มลงมาเสียงดังสนั่น ตนตกใจกระโดดหนีเข้าไปอยู่ในห้องนอนก่อนจะเรียกสามีและลูกที่นั่งอยู่ในบ้านให้รีบหลบเข้าห้องหลังสิ้นเสียงลมได้มีฝนตกลงมาอย่างหนักซ้ำอีกประมาณ 20 นาที จึงหยุด ก่อนที่ตนจะออกมาสำรวจดูรอบบ้านพบว่าบ้านถูกพายุพัดจนพังเสียหายหลายส่วน โดยตนมาอยู่ที่นี้เกือบ 10 ปีแล้วยังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ เคยแต่เห็นในข่าวทีวีในจังหวัดอื่นๆ แต่ไม่คิดว่าจะมาโดนกับตัวเอง
ในส่วนบ้านของ นาย เฉลิมศุกร์ โชติพรม อายุ 40 ปี เล่าว่าบ้านของตนได้รับความเสียหายอย่างหนักเกือบหมดทั้งหลัง ซึ่งในขณะนั้นตนนั่งเล่นและพูดคุยกับคนในบ้านอยู่บริเวณโต๊ะหน้าบ้านได้ยินเสียงลมพัดมาอย่างแรงทางหลังบ้านก่อนที่จะเห็นหลังคาซึ่งเป็นกระเบื้องปลิวหล่นลงมากระแทกพื้นจนแตกกระจายและยังมีฝ้าเพดานหลุดร่วงลงมาแตกอีกหายแผ่น โครงหลังคาโรงจอดรถพังถล่มลงมาทั้งหมด จึงรีบวิ่งหนีกันไปหลบบ้านข้างเคียงจนพายุหมดฤทธิ์ลงจนออกมาเดินสำรวจดูบ้านพบว่าถูกพายุพัดจนพังเสียหาย
ในส่วนพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.บ้านคลองสวน ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกันยังพบว่ามีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายจากพายุลูกนี้อีกกว่า 10 หลังคาเรือน ต้นไม้น้อยใหญ่หักโค่นขวางถนน กระเบื้องหลังคา สังกะสี ประตูกระจกถูกแรงลมกระแทกจนพังเสียหาย ศาลพระภูมิเจ้าหน้าที่ หักโค่นลงมากองกับพื้นเสียหายทั้งหมด
ทางด้าน นาย พินิจ เติมบุญ นายก อบต.บ้านคลองสวน ได้ลงพื้นตรวจสอบความเสียหายแล้ว โดยกล่าวว่า ช่วงดึกที่ผ่านมาทาง อบต.บ้านคลองสวน ได้ให้เจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยของ อบต.ได้ลงสำรวจบ้านเรือนประชาชนที่รับความเสียหายหากบ้านหลังไหนเข้าข่ายที่อันตรายจะปิดกั้นไม่ให้เข้าไปด้านในเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ซึ่งในช่วยเช้าจะประสานเจ้าหน้าที่กองช่าง เจ้าหน้าที่กองสวัสดิการและสังคม ลงพื้นที่อีกครั้งเพื่อประเมินค่าเสียหายและตรวจสอบบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบว่ามีทั้งหมดเท่ารัย เพื่อจัดหางบประมาณเข้ามาช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ต่อไป