หัวอก พ่อแม่ สูญเสียลูกสาว แต่ ผอ. บอกให้ภูมิใจ ลูกพลีชีพเพื่อชาติ
หัวอก พ่อแม่ สูญเสียลูกสาว หลังร่วมงานกีฬา ทั้งที่ป่วย โรคพุ่มพวง สุดช้ำหนัก ผอ. บอกให้ภูมิใจ ลูกพลีชีพเพื่อชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ปกครองสองสามีภรรยาเข้าร้องเรียนกับ นายภาณุมาศ จิตรวศินกุล เจ้าของเพจ "เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย" แจ้งความว่า น้องโฟ ลูกสาว วัย 17 ปี ต้องมาเสียชีวิตเพราะถูกครูที่โรงเรียนเทศบาลแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี บังคับให้ไปร่วมกิจกรรมใน งานกีฬา ซึ่งเป็นกีฬาของนักเรียนสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทยรอบคัดเลือก ในโซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งๆ ที่ลูกสาวป่วยเป็น โรคพุ่มพวง สุดท้ายลูกสาวต้องมาเสียชีวิตขณะไปแสดงเต้นกลางสนามในพิธีปิดกีฬาอย่างน่าสงสาร
น.ส.รุ่ง (นามสมมติ) อายุ 37 ปีผู้ปกครอง เปิดเผยว่า เมื่อช่วง เดือน มิ.ย. 2567 ที่ผ่านมา ลูกสาวมาบอกพ่อกับแม่ว่าทางโรงเรียนแจ้งว่าจะประกาศหยุดเรียน เพราะจะมีการจัดแข่งขันกีฬา ทางลูกสาวก็มาแจ้งว่าทางโรงเรียนจะหยุดเรียนนะแม่ประมาณ 2-3 อาทิตย์ แต่วันต่อมาลูกสาวมาแจ้งว่า ไม่ได้หยุดแล้วนะแม่ ทางครูให้ไปเป็นสต๊าฟช่วยเสริฟ์น้ำเสริฟอาหารและกิจกรรมอื่นๆ โดยครูจะเลือกนักเรียนที่ป่วยหรือมีโรคประจำตัว ประมาณ 10 กว่าคน ตอนแรกเราก็งง ทำไมครูถึงเลือกเอานักเรียนที่ป่วยไป โดยลูกสาวป่วยเป็น โรคพุ่มพวง ก็ห่วงลูกสาวอยู่เพราะป่วยอยู่แล้ว ก็ถามลูกสาวว่า ไหวไหมลูก น้องก็บอกว่า ไม่ไหวก็ต้องไหวเพราะกลัวไม่ผ่านกิจกรรม
จากนั้นลูกสาวก็ไปร่วมกับเพื่อนๆ พอมาถึงวันที่ 29 มิ.ย. เป็นพิธีปิดกีฬาฯ ปรากฏว่า จะมีการแสดงเต้นกลางสนาม มีนักเรียนไม่มา ครูจึงได้เรียกสต๊าฟที่เป็นเด็กนักเรียนที่ป่วยทั้งหมดไปเต้นแทน จู่ๆ ลูกสาวที่เต้นอยู่เกิดล้มฟุบกลางสนาม เพื่อนๆ เข้าไปช่วย แต่ถูกครูเรียกบอกว่าไม่ต้องเข้าไป ให้เต้นให้เสร็จก่อน ลูกสาวนอนฟุบอยู่นานหลายนาที ก่อนจะมีรถพยาบาลมาช่วยปั๊มหัวใจ สุดท้ายนอนเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่ 11 วันและเสียชีวิตในวันที่ 11 ก.ค. 2567
สาเหตุที่ทำให้ลูกสาวเสียชีวิตอาจจะเป็นเพราะว่าน้องป่วย โรคประจำตัว อยู่แล้ว และไปเป็นสต๊าฟทำงานหนักเกินไปแถมครูเรียกให้ไปแสดงกลางแจ้งจนทำให้เป็นลมเสียชีวิตกลางสนาม เรื่องราวที่เกิดขึ้นเสียใจอย่างมาก เพราะเรามีลูกสาวคนเดียวเป็นความหวัง เป็นความสุขของพ่อแม่ รักลูกสาวคนนี้มาก แม้เขาป่วยเป็นโรคพุ่มพวง แต่พ่อและแม่ดูแลอย่างดีพาไปรักษาจะหายแล้ว แต่สุดท้ายต้องมาจากไปโดยไปแบบนี้
แต่ที่น่าช้ำใจคือตอนที่ลูกสาวป่วยนอนรักษาตัวที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี มี ผอ.สำนักฝ่ายการศึกษา ของเทศบาลฯ ท่านหนึ่งมาเยี่ยมบอกว่า พ่อแม่จงภูมิใจที่ลูกสาวพลีชีพเพื่อชาติ เราได้ยินก็ตกใจก็ผ่านไป แต่ปรากฏว่า ผอ.ท่านนี้ ไม่ใช่พูดครั้งเดียวมาเยี่ยมลูกสาว 4-5 ครั้งก็พูดแบบนี้ ให้พ่อแม่ภูมิใจลูกสาวพลีชีพเพื่อชาติ ย้ำอยู่แบบนี้ ยอมรับหัวอกคนเป็นพ่อและแม่ไม่คิดว่าคนเป็น ผอ. จะพูดแบบนี้ได้
ถึงตอนนี้จะครบ 100 วันที่ลูกสาวเสียชีวิตไปแล้ว เราได้สู้เพื่อให้ลูกแม้เขาจะเสียชีวิตไปแล้ว พ่อและแม่จะดำเนินคดีกับผุ้ที่เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุดโดยให้ทนายดำเนินการ เรียกค่าเสียหายที่สูญเสียลูกสาวไป 12 ล้านบาท แต่ทางเทศบาลฯ ชดใช้ให้แล้ว 700,000 บาทคงไม่คุ้มกับพ่อและแม่ที่ต้องสูญเสียลูกสาวไป คงดำเนินการเรื่องคดีให้ถึงที่สุด เรื่องเยียวยาให้เงินเป็นล้านก็ไม่คุ้มกับ การสูญเสียลูกสาวไปที่เอาคืนไม่ได้
พ่อกับแม่รักลูกสาวคนนี้มากแม้เขาจะป่วยแต่เราก็ดูแลทะนุถนอมเขามาตลอดหวังให้เขาหายจากอาการป่วยเพราะเป็นความหวังของพ่อแม่ โตขึ้นเขาอยากเป็นนักธุรกิจมีร้านกาแฟเป็นของตัวเอง แต่สุดท้ายต้องมาจบชีวิตเพราะครูบังคับให้ไปทำกิจกรรม อยากจะฝากเคสลูกสาวเป็นอุทาหรณ์ถึงโรงเรียนถึงผุ้บริหารสถานศึกษาฯ หากเด็กป่วยหรือไม่สบายคุณครูควรเข้าใจอย่าให้เด็กไปทำกิจกรรมจนเสียชีวิตแบบนี้ และจากวันนั้นจนถึงวันนี้จะครบ 100 วันที่ลูกสาวเสียชีวิต ยังไม่มีคำขอโทษจากผู้บริหารโรงเรียนและผู้บริหารเทศบาลนครอุดรธานีแต่อย่างใด แม่ไม่อยากสูญเสียลูกไปเพราะมีลูกคนเดียว อยากได้ชีวิตลูกสาวกลับคืนมา หัวอกคนเป็นแม่พูดไปร้องไห้ไปแทบใจจะขาด
เพื่อนของน้องโฟ บอกว่า วันเกิดเหตุครูได้ให้พวกตนประมาณ 10 กว่าคนไปเต้นกลางสนามแทนคนที่ไม่มาในงานกีฬาวันปิดการแข่งขัน ซึ่งทุกคนมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว ทุกคนก็ไม่อยากไป แต่ครูสั่งก็จำใจต้องไป พอเต้นไปสักพักปรากฎว่าโฟล้มฟุบกลางสนามท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัด หนูวิ่งเข้าไปช่วยเพื่อนและเรียกคนมาช่วย แต่ครูบอกว่าไม่ต้องไปช่วยให้แสดงเสร็จก่อนเดี๋ยวภาพออกมาไม่สวย เห็นเพื่อนนอนฟุบก็ช่วยไม่ได้ สุดท้ายเพื่อนมาเสียชีวิต อยากจะบอกโฟว่า อยากให้เพื่อนกลับมา มาเป็นเพื่อนกันเหมือนกัน อยากเอาชีวิตโฟกลับคืนมา
ส่วนเพื่อน น้องโฟ อีกคน บอกว่า ผมเสียใจมากที่ต้องมาสูญเสียเพื่อนรักไปแบบนี้ ยังรับไม่ได้ แม้จะผ่านมาเกือบ 100 วัน ทุกวันคิดถึงแต่เพื่อน เขาไม่น่าจะไป เราสนุก เราทำกิจกรรมร่วมกัน เห็นเพื่อนล้มฟุบต่อหน้าต่อตาแต่ไปช่วยเพื่อนไม่ได้เพราะครูสั่งห้าม วันนี้หากย้อนเวลาได้อยากให้เพื่อนเขากลับมา เสียใจที่ครูให้ไปทำกิจกรรมจนเพื่อนเสียชีวิต เวลาไม่หวนกลับคืนมาได้
โดย : อุดม ปิดตาทานัง