นายกเล็ก ชี้ ผอ. พูดจุกอกแม่ของนักเรียนที่เสียชีวิต เพื่อปลอบใจ
นายกเล็ก ป้อง ผอ. เผยคำพูดจุกอกแม่นักเรียนที่เสียชีวิต เจตนาต้องการปลอบใจ ด้านครูแจงไม่เคยบังคับเด็ก ถ้าไม่มางานกีฬาจะไม่ผ่านกิจกรรม
11 ต.ค. 2567 กรณีผู้ปกครองร้องเกี่ยวกับการเสียชีวิตของ น้องโฟกัส ลูกสาว อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนเทศบาลแห่งหนึ่ง ใน จ.อุดรธานี ป่วยเป็นโรคพุ่มพวง ถูกครูบังคับให้ไปทำกิจกรรมตากแดด เต้นในพิธีปิดกีฬาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชื่อคุณทองบุราณเกมส์ ที่ จ.อุดรธานี จากนั้นจู่ๆ ก็ล้มฟุบเข้าโรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยแม่ของเด็กติดใจคำพูด ผอ.กองการศึกษา ที่พูดซ้ำๆว่า “ให้เข้าใจว่า จงภูมิใจลูกพลีชีพเพื่อชาติ”
ล่าสุด นายกฤษดา โสภา ผอ.โรงเรียนเทศบาล 6 เปิดเผยว่า กรณีที่เป็นข่าวเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นในพิธีการแข่งขันกีฬานักเรียนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย (รอบคัดเลือก) ระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งที่ 38 (คุณทองโบราณเกมส์) ตอนเกิดเหตุตนอยู่ที่เกิดเหตุแต่คนละฝั่ง โดยมีเด็กคนหนึ่งลักษณะคล้ายเป็นลม และมีคนพาเด็กไปส่งโรงพยาบาล ซึ่งตนก็ตามไป และทราบต่อมาในวันเกิดเหตุว่าเด็กที่ป่วยมีโรคประจำตัว หลังน้องเสียชีวิต ตนรู้สึกเสียใจมาถึงทุกวันนี้
ทางโรงเรียนเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจได้ให้การช่วยเหลือ ตั้งแต่เข้าโรงพยาบาลไปจนพิธีการงานศพโรงเรียนช่วยเหลือเยียวยาทุกอย่าง อย่างไรก็ดีเหตุนี้จะเป็นกรณีตัวอย่างให้เป็นบทเรียนของสถานศึกษาต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีแจ้งให้นักเรียนมาร่วมกิจกรรมกับทางโรงเรียนมีการทำหนังสือแจ้งไปถึงผู้ปกครองอย่างไร ผอ.ยอมรับว่า โรงเรียนมีหนังสือแจ้งให้ร่วมกิจกรรมชัดเจน กรณีนี้โรงเรียนยอมรับว่าบกพร่อง หลังเกิดเหตุโรงเรียนได้สั่งการให้ครูเก็บข้อมูลนักเรียนทุกคน ว่าใครมีโรคอะไร ระดับไหน ต่อไปจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก
ด้าน ครูกัญ (นามสมมุติ) เล่าว่า กรณีน้องโฟกัสเสียชีวิต ส่วนตัวครูก็เสียใจไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ ยืนยันการที่เด็กมาร่วมกิจกรรมไม่มีการบังคับโดยอ้างว่าหากเด็กไม่มาจะไม่ผ่านกิจกรรม เด็กเต็มใจมาทำกิจกรรมตามที่ขอความร่วมมือ
นายธนดร พุทธรักษ์ นายกเทศมนตรีนครอุดรธานี เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรู้ตั้งแต่วันเกิดเหตุ ทุกฝ่ายเสียใจกับการเสียชีวิตของน้องโฟกัส ในฐานะผู้บริหารได้สั่งการให้ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา ผู้อำนวยการโรงเรียนให้ช่วยเต็มที่ ตั้งแต่น้องเข้าโรงพยาบาลกระทั่งการจัดงานศพ ส่วนตัวก็ใช้เงินส่วนตัวมอบให้ และเยียวยาตามระเบียบสูงสุดที่เราสามารถจ่ายให้ได้
ทั้งนี้ทางผู้ปกครองและญาติได้เข้ามาหารือเรื่องค่าเยียวยาเพิ่มเติม ซึ่งทางเทศบาลนครเองก็ได้แจ้งให้ทราบว่า หากพ่อแม่และญาติต้องการเงินเยียวยามากกว่านี้ พ่อแม่ผู้ปกครองต้องยื่นฟ้องตามกระบวนการศาลเรียกร้องเพิ่มเติม คำขอโทษที่ผู้ปกครองบอกว่าไม่เคยได้ยินจากผู้บริหารหรือส่วนเกี่ยวข้องนั้นไม่จริง แต่อาจจะเป็นการสื่อสารกันที่ไม่เข้าใจกันมากกว่า จริงๆแล้วเงินเยียวยา ส่วนตัวคิดว่าเป็นไปได้ก็ยากจะให้ตามที่ผู้ปกครองร้องขอ โดยไม่ต้องฟ้องร้อง แต่ตามระเบียบการเบิกจ่ายแล้ว ไม่สามารถทำได้
กรณีที่ ผอ.สำนักกองการศึกษาพูดว่า “ขอให้ภูมิใจคิดซะว่า น้องสละชีวิตเพื่อชาติ” คนพูดอาจพูดไปในมุมที่เขาปลอบใจ แต่คุณพ่อคุณแม่อาจจะไม่เข้าใจในคำพูดแบบนั้น