ดร.ธนกฤต ลุยแจ้งความเอาผิด บอสหมอเอก แอบอ้างเป็นหมอ จ่อค้นคลินิก | คมชัดลึก

เมื่อเวลา 09.00 น. นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย พล.อ.อ.นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา และ ดร.นายแพทย์ภานุวัฒน์ ปานเกตุ อธิบดีกรมสนับสนุนและบริการสุขภาพ เดินทางมาที่ ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อแจ้งความเอาผิดกับ ดร.ฐานานนท์ หิรัญไชยวรรณ หรือ บอสหมอเอก กรณีที่มีพฤติกรรมอ้างตัวเป็น หมอ 

 

 

ดร.ธนกฤต กล่าวว่า จากกรณีที่สังคมให้ความสนใจเกี่ยวกับพฤติกรรมของ บอสหมอเอก ที่แสดงตัวให้คนเข้าใจว่าเป็น หมอ เป็น นายแพทย์ มีภาพการตรวจคนไข้ ทำให้เกิดความไม่สบายใจต่อสังคม และมีการร้องเรียนมายังแพทยสภา ซึ่งเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ได้มีรายชื่อเป็นแพทย์จริง และไม่เคยเรียนจบทางแพทยศาสตร์ ทางแพทยสภาจึงได้ประสานมาทางกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือ สบส. ให้นำทีมกฎหมายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ โดยการแสดงตัวเป็นหมอ จะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ส่วนสถานที่ที่ปรากฎภาพตรวจคนไข้ หากไม่ได้รับการอนุญาต จะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล

 

โดยในวันพรุ่งนี้ ตนเอง จะนำเจ้าหน้าที่ สบส., เจ้าหน้าที่ อย., และแพทยสภาไปตรวจสอบสถานที่ที่พบว่ามีการเปิดเป็นคลินิก คือ คลินิกของ ดิไอคอน กรุ๊ป ย่านรามอินทรา และสถานที่ที่ปรากฎภาพว่า บอสหมอเอก ทำการรักษาคนไข้ ย่านประตูน้ำ รวม 2 จุด ว่ามีการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ และมีลักษณะเป็นอย่างไร

 

ส่วนกรณีที่มีการบอกว่าเป็นนักเทคนิคการแพทย์นั้น แม้จะเป็นนักเทคนิคการแพทย์จริงแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมาประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือมาเป็นหมอได้ มันเป็นคนละส่วนกัน

 

 

 

พฤติการณ์ของ บอสหมอเอก ถือว่าเป็น หมอเถื่อน อย่างชัดเจน ดังนั้น ต้องระมัดระวังเพราะมีหลายกรณีที่ไปรักษากับหมอเถื่อน หมอกระเป๋า แล้วเกิดการเสียชีวิตมาแล้ว ส่วนบอสหมอเอกก็ขอให้มาปรากฏตัวมาชี้แจงว่าสิ่งที่ทำไปทำเพื่ออะไร มีเจตนาอะไร และหากพบใครก็ตามที่อ้างตัวเป็นหมอเพื่อจูงใจคน ถ้าพบหลักฐานก็ให้แจ้งมา เพราะทางกระทรวงสาธารณสุขมีการดำเนินคดีกับคนที่แอบอ้างเป็นหมอเป็นประจำอยู่แล้ว

 

 

 

 

ด้าน พล.อ.อ.นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า เมื่อวานนี้ทางแพทยสภาได้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ในส่วนของการอ้างตัวเป็นแพทย์แล้ว แต่พบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมว่ามีเรื่องของการเปิดคลินิกด้วย จึงประสานไปยังกระทรวงสาธารณสุข 

 

ส่วนกรณีที่อ้างตัวว่าเป็น นักเทคนิคการแพทย์ เบื้องต้นตรวจสอบกับทางสภาเทคนิคการแพทย์แล้วพบว่า เคยมีใบอนุญาตเทคนิคการแพทย์จริง แต่น่าจะหมดอายุไปแล้ว แต่ยืนยันว่า นักเทคนิคการแพทย์จะมีหน้าที่เรื่องการดูเทคนิคการตรวจรักษา และเรื่องของห้องตรวจปฏิบัติการเท่านั้น แต่ไม่สามารถวินิจฉัยรักษาคนไข้ได้