เปิดประวัติ “จักรพันธุ์ ยมจินดา” จากผู้ประกาศข่าวดัง สู่เส้นทางการเมือง | คมชัดลึก

ข่าวเศร้าของวงการข่าว รวมถึงแวดวงการเมือง กับการสูญเสีย อดีตผู้ประกาศข่าวชื่อดัง มากความสามารถ และนักการเมืองคนดัง “จักรพันธุ์ ยมจินดา” ในวัย 70 ปี ในวันที่ 15 ต.ค. 2567

เปิดประวัติ จักรพันธุ์ ยมจินดา

ประวัติส่วนตัว

• เกิด 22 ส.ค. 2497 ที่ ตำบลตะพง อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง
• บุตรของ นายวิทยา และ นางบุญเลี้ยง ยมจินดา
• พี่ชาย นายบุญรวี ยมจินดา หัวหน้าพรรครวมใจไทย

การศึกษา

• ปี 2543 ปริญญาศิลปศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม

ชีวิตครอบครัว

• สมรสกับ นางอิสรา ยมจินดา มีธิดาด้วยกัน 1 คน

การทำงาน

• ปี 2531 – 2535 ผู้ประกาศข่าว ฝ่ายข่าว สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 และเป็นอดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานโทรทัศน์ และอดีตรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ รวมถึงรองประธานกรรมการคนที่สองของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)
• โดย เริ่มชีวิตการทำงานที่ฝ่ายข่าว สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 จากการเป็นผู้สื่อข่าวและผู้บรรยายการแข่งขันกีฬา ร่วมกับ พิษณุ นิลกลัด และ เอกชัย นพจินดา (อนึ่ง จักรพันธุ์ เป็นเจ้าของเสียงบรรยายในไตเติลเปิดรายการ 7 สีคอนเสิร์ต ยุคแรกด้วย)
• จากนั้นได้เลื่อนตำแหน่งเป็น บรรณาธิการฝ่ายข่าว และเป็นที่รู้จักของผู้ชมข่าวโทรทัศน์ จากการเป็นผู้ประกาศข่าวภาคค่ำ ช่อง 7 สี คู่กับ ศันสนีย์ นาคพงศ์
• ปี 2534 คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) ก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาล ภายใต้การนำของ พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ นายกรัฐมนตรี โดย จักรพันธุ์ ยมจินดา ได้รับการมอบหมายให้เป็น ผู้อ่านประกาศคำสั่งของ รสช. ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงและสถานีวิทยุโทรทัศน์ ส่งผลให้ประชาชนทั่วไปแสดงความไม่พอใจกับการกระทำของเขาในครั้งนั้น จากนั้นจึงลาออกจากช่อง 7

เส้นทางการเมือง

• ลงสมัครเข้ารับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่จังหวัดระยอง ในนามพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 2535 โดยเขาได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.ด้วยคะแนนกว่า 100,000 เสียง รวมถึงเป็นอันดับที่ 1 ของจังหวัด
• เป็นโฆษกกระทรวงมหาดไทย ในยุค พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการ เมื่อปลายปี พ.ศ. 2537 จนถึงกลางปี พ.ศ. 2538
• จากนั้น จักรพันธุ์ กลับมาสู่เส้นทางผู้ประกาศข่าวอีกครั้ง ในช่วงสถานการณ์ประจำวัน ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 จนถึงปลายปี พ.ศ. 2539 จึงได้ลาออกเพื่อลงสมัครเป็น ส.ส. ในเขตเลือกตั้งที่ 10 ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งประกอบด้วย เขตบางกอกน้อย, เขตบางพลัด และเขตตลิ่งชัน โดยเขาได้รับการเลือกตั้ง ด้วยคะแนน 64,428 เสียง
• ลาออกจากผู้ประกาศข่าวอีกครั้ง วันที่ 6 ม.ค.2544 ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ในสังกัดพรรคไทยรักไทย และได้รับการวางตัวจากพรรคไทยรักไทย ให้เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขตเลือกตั้งที่ 30 เพื่อแข่งขันกับ องอาจ คล้ามไพบูลย์ ของประชาธิปัตย์ 6 ก.พ. 2548
• แต่เขาถูกถูกศาลจังหวัดระยอง วินิจฉัยให้เพิกถอนสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2547 เนื่องจากขึ้นเวทีปราศัยหมิ่นประมาท พันตำรวจเอก พณาเจือเพ็ชร์ กฤษณะราช ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง เมื่อต้นปี  2544 เสียก่อน
• ปี 2548 ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทย

กลับสู่วงการสื่อ

• ก่อตั้ง บริษัท แมกซิมา สตูดิโอ จำกัด ร่วมกับญาติพี่น้องและเพื่อน โดยดำรงตำแหน่งประธานบริหาร เพื่อผลิตรายการข่าว สถานีสนามเป้า (ต่อมาเปลี่ยนชื่อและเวลาเป็น สนามเป้า..เล่าข่าว และ สนามเป้า..ข่าวเที่ยง ตามลำดับ) ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ซึ่ง จักรพันธุ์ เป็นพิธีกรข่าวด้วยตนเอง
• มีผลงานที่สำคัญคือ การสัมภาษณ์เดี่ยว (Exclusive) ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนจะเดินทางไปปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ และถูกรัฐประหารโดย คปค. เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2549
• นอกจากนี้ ยังผลิตรายการโทรทัศน์ ประเภทวาไรตี้บันเทิงอื่นๆ อีกหลายรายการ รวมทั้งร่วมบริหารวิทยุเอฟเอ็ม 94.5 เมกะเฮิร์ตซ์ ลูกทุ่งเอฟเอ็ม และเป็นดีเจจัดรายการในทุกวันเสาร์ เวลา 08:00-10:00 น.
• ปลายปี 2554 ในสมัยรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ดำเนินรายการข่าว รายการ แว่นขยาย BY จักรพันธุ์ และในช่วงวิกฤตมหาอุทกภัย ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
• 20 ธ.ค.2554  ลาออกจากตำแหน่งประธานบริหาร บจก.แมกซิมา สตูดิโอ เพื่อเป็นกรรมการฝ่ายสื่อสารมวลชนและพัฒนาองค์กร ของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)
• ต้นปี  2555 เลื่อนขึ้นเป็น รองประธานกรรมการคนที่สอง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานโทรทัศน์ และรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท
• 9 พ.ค.2555 ลาออกจากทั้งสองตำแหน่งหลังสุด พร้อมกับ สรจักร เกษมสุวรรณ ประธานกรรมการบริหารของบริษัทเดียวกัน โดยยังคงเป็นกรรมการของ บมจ.อสมท อยู่ตามเดิม
• โดย จักรพันธุ์ ยมจินดา ให้เหตุผลว่า ตลอดระยะเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่ทั้งสองตำแหน่งนี้ ได้ทำงานอย่างหนักมาโดยตลอด แทบไม่มีเวลาพักผ่อนและออกกำลังกาย เกรงว่าจะมีปัญหาในเรื่องสุขภาพ จึงขอลาออกเพื่อให้มีเวลาเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยปฏิเสธข่าวเรื่องขัดแย้งเกี่ยวกับการจัดผังรายการกับผู้บริหารพรรคเพื่อไทย เนื่องจากมีคณะกรรมการหลายฝ่ายร่วมพิจารณา

• 15 ต.ค. 2567 เฟซบุ๊ก Bas Yomchin ลูกของ จักรพันธุ์ ยมจินดา โพสต์ข่าวเศร้าการจากไปของ จักรพันธุ์ ยมจินดา ที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อเวลา 16.41 น. ในวัย70 ปี