ลูกหลานมึน แม่วัย 62 ถูก ผอ.AI หลอกให้หลงรัก โอนเงินแสน จนห้ามไม่อยู่
ลูกหลานมึน ห้ามวุ่นถึงธนาคาร หลังแม่วัย 62 ถูก ผอ.AI หลอกให้หลงรัก โอนเงินไปหลายแสนบาท พาไปหาตำรวจก็ไม่ยอมแจ้งความ
19 ต.ค. 2567 จากการณีปรากฏคลิปเหตุการณ์ มีการวิ่งไล่จับกันในธนาคาร ธกส.เชียงแสน จ.เชียงราย โดยมีหญิงสูงวัยไปถอนเงินที่ธนาคาร ลูกชายผิดสังเกตตามไปทันที่ธนาคาร ขอดูโทรศัพท์ว่าคุยกับใคร คาดว่าเป็นมิจฉาชีพ คุยทักหลอกโอนเงิน พอจะขอดูโทรศัพท์หญิงสูงวัยไม่ยอมให้ดู จึงเกิดการแย่งโทรศัพท์กันวุ่นในธนาคาร
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวไปลงพื้นที่ไปยังบ้านสันต้นธง ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน จ.เชียงราย พบกับ น.ส.อาภัสรา หรือ น้องกุ้ง ลูกสาว ของนางแสง อายุ 62 ปี หญิงสูงวัยในคลิป เล่าว่า เมื่อประมาณกลางเดือนกันยายน นางแสง ได้เข้าไปอยู่ในกลุ่มสูงวัยหาคู่ ด้วยความที่สามีเสียชีวิตมาได้ประมาณ 3 เดือน จึงคิดอยากจะหาคนรู้ใจในวัยเดียวกัน พูดคุยแก้เหงา และได้ไปพบกับ ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ซึ่งคาดว่าเป็น ผอ.AI หลอกให้หลงรัก อ้างว่าเป็นพ่อหม้ายลูกติด อยากได้คนมาดูแลตัวเองและแม่ที่ป่วย ทำให้แม่เกิดคล้อยตาม หลงเชื่อเกิดหลงรัก ผอ.AI
ระหว่างที่ไปถอนเงินทาง ผอ.AI จะคอยสอนตลอดในโทรศัพท์ จนเป็นคลิปที่ลูกชายไปตามที่ธนาคาร สุดท้ายลูกชายห้ามไม่ฟัง จึงปล่อยนางแสงไป
ในการถอนเงินแล้วไปโอนที่ไหน ทาง ผอ.AI จะวิดีโอคอลสอนทุกอย่าง ต้องไปโอนที่ไหน อย่างไร ได้ไปจ่ายที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำนวน 80,000 บาท พอทาง ผอ.AI ได้รับเงินจึงได้โอนกลับมาเป็นค่าตั๋วเครื่องบิน 28,000 บาท แม่ก็ยิ่งหลงชื่อเข้าไปอีก จนตนไปพบสลิปบิลการโอน แล้วพยายามเตือน แต่ก็ไม่เชื่อ แม่คิดว่าลูกไม่ยอมให้มีแฟนใหม่ จึงห้ามไม่ให้ครบ กับ ผอ.AI ซึ่งหลังจากนั้นลูกๆ พยายามให้นางแสงไปพบแพทย์ตรวจ พบว่ามีอาการจิตเวช จากอาการลุ่มหลงคิดหาแต่ ผอ.AI จนไม่เป็นอันกินอันนอน
อยากจะให้เคสของแม่ เป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้สูงอายุ ว่ามิจฉาชีพจะไปหลอกคนอื่นอีก เพราะยังมีการเคลื่อนไหวทางเฟซบุ๊กของ ผอ.AI อยากจะให้เจ้าหน้าที่รีบจับมิจฉาชีพรายนี้ เพราะเรามีหลักฐานการโอนทั้งหมด
นอกจากนี้เคยพาแม่ไปแจ้งความเอาผิด ผอ.AI แต่ทางตำรวจไม่รับแจ้ง เพราะแม่ซึ่งเป็นผู้เสียหายไม่ยอมแจ้งความ แต่ด้วยความที่เราเป็นลูกสาว
ด้าน น.ส.ญาติ หรือ คุณบิ๋ม เป็นญาติกัน เผยว่า พบว่ามิจฉาชีพมีแอคเคาท์ จำนวนมาก และส่วนใหญ่มีเพื่อนเป็นผู้สูงวัย จะสอบถามเรื่องการเงิน จนทราบว่านางแสง มีเงินสด 2 แสนกว่าบาท และพยายามจะหลอกให้หลงรักและชักชวนลงทุน โดยจะหลอกเหยื่อในเวลาที่อยู่ลำพัง และให้เหยื่อตายใจ คือ จะเปิดวิดีโอคอล โดยใช้ AI มาเป็นรูปเหมือนของบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือทางสังคม ซึ่งมิจฉาชีพ จะสอนวิธีการโอนเงินที่ไม่สามารถให้ตรวจสอบปลายทางได้ หากไม่ใช้เจ้าหน้าที่
และหลังจากการทำธุรกรรมเสร็จให้ลบข้อความติดต่อทั้งหมด เพื่อไม่ให้ลูกหลานทราบ กรณีนางแสง ลูกหลานได้ทำการตรวจสอบพบว่าก่อนหน้าได้โอนเงินไปแล้ว 200,000 บาท และตอนหลังอีก 80,000 บาท รวมแล้ว 280,000 บาท และที่ยังไม่ทราบอีกก็มี ถ้ามีคนเตือนจะพยายามหลบหนี พอหลังๆโอนเงินไปมาก พอมีคนทราบเรื่องมิจฉาชีพจะเร่งให้โอนเงินให้หมด ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ทางลูก ไม่สามารถแจ้งความได้ มีแต่เพียงเหยื่อเท่านั้นที่จะแจ้ง ได้
แต่เมื่อเหยื่อลุ่มหลงลักษณะนี้ คงจะไม่แจ้ง ดูว่ากฎหมายไม่เอื้ออำนวยทำให้มิจฉาชีพทำงานได้ จึงอยากจะร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ อยากจะให้ทาง ผอ.คนดังกล่าวมาร่วมมือกันจับมิจฉาชีพ ที่ใช้ชื่อเฟซบุ๊กของท่านเคลื่อนไหว
สุดท้ายลูกหลานต้องปล่อยนางแสงไปหา ผอ.AI ที่ จ.นครพนม ซึ่งระหว่างนั้นมิจฉาชีพทราบว่านางแสง จะไปที่ จ.นครพนม และทางมิจฉาชีพทราบว่าได้เงินมาจากนางแสง จำนวนมากแล้ว และกลัวนางแสงมาแล้วไม่สมหวัง กลัวจะฆ่าตัวตาย จึงได้ติดต่อทางแชทมาหาลูกๆนางแสงให้มารับตัวนางแสงกลับ ซึ่งนางแสงอยู่ที่สถานีขนส่งเชียงราย ซึ่งทางญาติมีหลักฐานการโอนเงินไปปลายทางชื่อใคร และเฟซบุ๊กของมิจฉาชีพยังมีการเคลื่นไหว จึงอยากจะให้เจ้าหน้าที่ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง รับงับ หรือติดตาม ไม่อย่างงันมิจฉาชีพจะไปหลอกคนอื่นต่อ