ยายเล่านาทีระทึก มวลน้ำซัดกำแพงวัดถล่ม หนักสุดในรอบ 20 ปี | คมชัดลึก

20 ต.ค. 2567 เวลา 11.30 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดบ้านไร่ ต.บ้านบึง อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ซึ่งอยู่หลังบริเวณหลังตลาดสดเทศบาล อ.บ้านไร่ โดยเมื่อคืนที่ผ่านมานั้น มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ที่อยู่บริเวณวัดถ่ายวีดีโอ เหตุการณ์กำแพงของวัดถูกน้ำป่าที่ไหลมาแรง จนพังถล่มลงเสียหายอย่างหนัก และมีคนแชร์ต่อกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นระยะทางเกือบ 1 กิโลเมตรบริเวณหน้าวัด

ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นางสำราญ (สงวนนามสกุล)  อายุ 71 ปี ที่อยู่หมู่ 1 ต.บ้านบึง อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ ได้เล่าให้ฟังว่า ก่อนที่กำแพงวัดจะถล่มลงมา มีเสียงกระแสน้ำไหลบ่าม าจนได้ยินชัดเจนมาก และเสียงนั้นน่ากลัวมาก เคยท่วมแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว แต่ในครั้งนี้นับว่ารุนแรงกว่าทุกครั้ง ในรอบ 20 ปี

ซึ่งชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณหน้าวัด ต่างก็ตกใจกัน เพราะเสียงกำแพงวัดที่พังลงมานั้นเสียงดังสนั่น จนดังไปทั่วบริเวณหน้าวัด หลังจากที่เสียงนั้นสงบลงไป ก็ออกจากบ้านมาดู พบว่ากำแพงวัด พังลงมาแล้ว และรู้สึกเสียดายมากเพราะชาวบ้านช่วยกัน กับทางเจ้าอาวาสสร้างขึ้นมา และอยู่มานานจนมาพังในที่สุด

 ขณะเดียวกัน น.ส. ปริยากร (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี ที่อยู่หมู่ที่ 1 ต.บ้านบึง อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี บ้านอยู่ก่อนถึงวัดบ้านไร่ ประมาณ 500 เมตร บอกว่ารถยนต์ยี่ห้อเชฟ โรเลต สีดำ ทะเบียนสระบุรี จอดไว้ที่บริเวณหน้าบ้านซึ่งเป็นรถที่ใช้ขนของทำงาน  หลังจากที่กระแสน้ำนั้นพัดมาอย่างรุนแรง ส่งผลให้ดินยุบตัวลง จนรถกระบะทั้งคันตกไปในหลุม ได้ให้น้องชายนั้นได้แจ้งหน่วยงานที่เกียวข้องมาช่วยแล้ว แต่ก็ต้องรอ เพราะยังมีผู้ที่เดือดร้อนกันอีกเยอะที่ร้องขอทางเทศบาลอำเภอบ้านไร่ และอาสากู้ภัยต่างๆ

ขณะที่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ใน อ.บ้านไร่ ยังคงปกคุลมไปด้วยเมฆฝน และมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประชาชนในพื้นที่ หวั่นว่าจะเกิดท่วมซ้ำรอย เหมือนเมื่อคืน นางสาวพุทธธิดา (สงวนนามสกุล)อายุ 45 ปี เล่าว่า น้ำที่ไหลหลากมาจากทางบ้านสะนำ และห้วยป่าปกนั้น ไหลมาที่ อ.บ้านไร่ อย่างแรง จนผู้ที่อยู่บริเวณหน้าตลาดสด เก็บของไม่ทัน ข้าวของเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน นั้นเสียหายหมด ไม่เคยหนักถึงขนาดนี้มาก่อน

ในตอนนี้ถึงแม้น้ำจะลดลงแล้ว แต่ก็ต้องเร่งทำความสะอาดกัน เพราะดินโคลน เข้าไปในบ้านจนเต็มไปหมด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กำลังให้ออกมาจากพื้นที่ และนำข้าวกล่องไปแจกจ่ายให้ โดยทิ้งร่องรอยความเสียหาย น้ำกัดเซาะถนนพัง

 ขณะที่บริเวณ ต้นไม้ยักษ์บ้านสะนำ หมู่ที่ 3 ต.บ้านไร่ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี คลองส่งน้ำกระเวน ซึ่งรับน้ำมาจากบ้านพุบอน และบ้านเจ้าวัดนั้น น้ำยังคงไหลแรง และมวลน้ำยังไหลอย่างต่อเนื่อง

นายณัฐพล (สงวนนนามสกุล) อายุ 36 ปี เปิดเผยว่า หลังจากที่ฝนตกลงมาอย่างหนัก ในช่วงบ่ายระดับน้ำในคลองส่งน้ำกระเวน ที่อยู่หลังร้านเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ พอในช่วงหัวค่ำ ฝนตกอย่างหนักจนน้ำไหลเข้าท่วมเข้ามาในร้าน ตัดสินใจโพสต์ขอความช่วยเหลือ เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย

 โดยคาดว่าความเสียหายในครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท และต้องเฝ้าระวังกันอีกเพราะยังคงมีฝนปกคลุมต่อเนื่อง