แฉวีรกรรม "นายเล็ก" ตระเวนหลอกพระเป็นเจ้าภาพกฐิน มีวัดตกเป็นเหยื่อเพียบ | คมชัดลึก

จากกรณีนายเล็ก มารศาสนา โจรในคราบนักบุญ เข้ามาตีสนิท "พระครูวรวัฒน์เขมากร" อายุ 68 ปี เจ้าอาวาสวัดโบสถ์(บน) ต.บ้านกระทุ่ม อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนหลอกลวงจองกฐิน จากนั้นออกอุบายให้เจ้าอาวาสไปยืมเงินญาติโยมมาให้ จำนวน 6.5 แสนบาท ก่อนหายตัวไป เป็นเหตุให้เจ้าอาวาสเครียดหนัก คิดสั้นจบชีวิต ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

22 ต.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ วัดถ้ำเข้ อ.หันคา จ.ชัยนาท เพื่อพูดคุยกับ พระครูโกศลชัยกิตติ์ เจ้าอาวาสวัดถ้ำเข้ ยืนยันว่านายเล็ก เป็นบุคคลเดียวกับมิจฉาชีพที่เคยมาหลอกเมื่อ 2 ปีก่อน เป็นเหตุการณ์ที่ทางวัดไม่เคยลืมเลือน ทำสูญเงินไป 300,000 บาท

พระครูโกศลชัยกิตติ์ เปิดเผยว่า ช่วงก่อนทอดกฐินเมื่อปี 2565 ชายคนนี้ใช้ชื่อว่า "ชัย" ใส่ทองเส้นโต ท่าทางน่าเชื่อถือ พูดจาดี มาบอกจะจองกฐินข้ามปี ไปยันปี 2568 เอาหัวหมูมาแก้บน ประทัดยาวเหยียด แถมบอกจะผูกข้อมือกับแฟนที่ศาลาวัดอีก พอใกล้วันงาน บอกให้โอนเงินไปร่วม 300,000 บาท เป็นผู้หญิง 3 คน และอื่นๆ ที่ไม่ได้เก็บไว้ อีกรวมกว่า 3 แสนบาท นายชัยบอกเป็นค่าใช้จ่ายเรื่องเก็บเงินกฐิน หากรวมเงินกฐินไปด้วย น่าจะไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท

วันก่อนงานกฐินของวัด เอาเครื่องไฟ สั่งของ สั่งอาหาร จัดงานใหญ่โต พอถึงวันงานกลับเงียบหาย ทางวัดติดต่อไม่ได้ ต้องนำเงินอีกส่วนหนึ่งที่ได้มาจากญาติโยมไปจ่ายหน้างานก่อน ทางวัดก็เป็นหนี้อยู่หลักแสน แต่โชคดีที่ทุกวันนี้ มีเถ้าแก่โรงสีมาจ่ายค่าน้ำค่าไฟวัดให้ หนี้จึงค่อยๆ ลดลง หลังจากนั้นก็ไปแจ้งความแต่คดีไม่คืบหน้าเลยแต่อย่างใด พอมาเห็นข่าวเห็นภาพ เป็นคนเดียวกันล้านเปอร์เซ็นต์

นอกจากนี้ยังพบว่ามิจฉาชีพรายนี้เคยไปก่อเหตุที่ วัดบ้านอิฐ ต.บ้านอิฐ อ.เมือง จ.อ่างทอง โดยผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ พระวิเชียร ปมุตโต อายุ 47 ปี พระลูกวัด ทราบว่าเมื่อ 2 ปีก่อน นายเล็ก ใช้ชื่อว่าแดง มาที่วัดทุกวัน นำของมาถวายเจ้าอาวาส จากนั้นขอทางวัดรื้อโรงครัวที่ผุพัง เพื่อที่จะทำให้ใหม่ และขอเอาตรายางของวัดไปทำใบฏีกา ซึ่งยอดเงินบริจาคตามรายชื่อที่เอามาให้ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 10 ล้านบาท มีเจ้าภาพบูรณะโบสถ์ให้ 6,000,000 ล้านบาท เจ้าภาพบูรณวิหารหลวงพ่อดำให้อีก 3,000,000 ล้านบาท

ส่วนวันทอดกฐิน มิจฉาชีพรายนี้ อ้างว่าลูกพี่จะเอารถฟอร์จูนเนอร์พร้อมเช็คเงินสด 10,000,000 ล้านบาท มาถวาย ซึ่งวันถวายรถกับเช็คฯ ให้นิมนต์พระ 9 รูป พร้อมให้ทางวัดจัดอาหารรับรองเลี้ยงคนด้วยประมาณ 20 คน พอถึงวันนัดไม่มีใครมาสักคน วัดต้องจ่ายค่าอาหารโต๊ะจีน และถวายพระ 9 รูป เป็นเงินหลายหมื่นบาท หลังจากนั้นเจ้าตัวยังกลับมาที่วัด เอาถังผ้าป่าไป เจ้าอาวาสต้องไปตามถังผ้าป่าคืน ได้กลับมาแต่ถังเปล่าๆ สุดท้ายเจ้าอาวาสไปปรึกษาญาติที่เป็นตำรวจเพื่อติดตามนายแดงมาดำเนินคดี

ด้าน นายสุวัฒน์ จิตต์อารีย์ อายุ 66 ปี ไวยาวัจกรวัด บอกว่า ชายคนดังกล่าวได้มาที่วัดและตีสนิทกับหลวงพ่อจนเชื่อใจให้ตรายางของวัดไป จนกระทั่งผู้ที่ทำบุญมากับวัดมาแจ้งว่า ทำบุญกับวัดมาแล้วไม่เห็นวัดทำอะไร ความจึงแตก แต่ชายคนดังกล่าวได้หายตัวไป จนมาทราบว่ายังมีวัดในพื้นที่โดนหลอกลักษณะเดียวกัน อีกนับสิบแห่ง
 

ส่วนความคืบหน้าการติดตามตัวนายเล็ก พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า คดีชันสูตรพลิกศพ ทางคณะกรรมการวัด และญาติไม่ติดใจสาเหตุ ส่วนการติดตามตัวนายเล็ก ที่ยืมเงินเจ้าอาวาสไปแล้วไม่ชดใช้ ได้ออกหมายเรียกไปแล้ว 1 ครั้ง ภรรยานายเล็ก เป็นคนรับหมาย สำหรับประเด็นที่นายเล็ก มารับจะขอร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐิน มีการนำรายชื่อกรรมการ และนำซองกฐินไป อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ว่าจะมีความผิดทางกฎหมายในคดีอาญาหรือไม่ หรือทางแพ่ง

ทั้งนี้ จากการสืบสวนทราบว่านายเล็ก ใช้หลายชื่อไปหลอกลวงเหยื่อ เช่น ชักชวกขายลอตเตอรี่ ขายหมู หลอกเป็นเจ้าภาพทอดกฐิน เคยก่อเหตุในพื้นที่ จังงหวัดแพร่ สุพรรณบุรี อ่างทอง ชัยนาท พระนครศรีอยุธยา ตำรวจอยากให้ผู้เสียหาย เข้าแจ้งความดำเนินคดี เพื่อให้เป็นคดีฉ้อโกงประชาชน ข้อหาจะหนักมากขึ้น และหากใครพบเห็นนายเล็ก ขอให้แจ้งตำรวจเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป